Picture of the author
autobacsautobacs
autobacs

ยางรถกระบะต้องดูอะไร เพื่อการใช้งานที่ทนทุกสภาพถนน


วันที่เผยแพร่: 23 ก.ค. 2567

แชร์ไปยัง

ยางรถกระบะ เป็นยางที่เหมาะกับการบรรทุก สามารถรองรับน้ำหนักการบรรทุกได้ดี และขับขี่ได้หลากหลายสภาพท้องถนน ไม่ว่าจะบุกป่า ฝ่าดง หรือขับบนท้องถนนในเมืองก็ไม่มีหวั่น และในการเลือกยางรถกระบะควรเลือกให้เหมาะกับใช้งานงานด้วย ซึ่งจะเลือกยางรถกระบะยังไงดี ไปดูกัน

ยางรถกระบะ คืออะไร

ยางรถกระบะ คือ ยางรถยนต์ที่ถูกออกแบบสำหรับการใช้งานเพื่อบรรทุกของหนักโดยเฉพาะ โดยยางรถกระบะที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้ คือ ยางประเภท All Terrain มีตัวย่อบนยางเป็น A/T เป็นยางที่เน้นใช้งานได้กับทุกท้องถนน ทั้งทางเรียบ และออฟโรด จุดเด่นของยางนี้ มีดอกยางหนา มีขนาดใหญ่ และรอยยางห่างกันเล็กน้อย จึงสามารถยึดเกาะถนน ทั้งบนถนนเปียกและบนถนนแห้งได้เป็นอย่างดี

ยางรถกระบะ แตกต่างจากยางทั่วไปยังไง

ยางรถกระบะกับยางรถทั่วไป จะมีความแตกต่างเรื่องการออกแบบของยาง แน่นอนว่ายางรถกระบะจะมีขนาดใหญ่ และหนากว่ายางรถทั่ว ๆ ไป เพื่อให้เหมาะกับการสมรรถนะในการขับขี่บนท้องถนน

มีขนาดใหญ่ และกว้างกว่า

ข้อแตกต่างอย่างแรก คือ ยางรถกระบะจะมีขนาดใหญ่ และหน้ากว้างกว่ายางรถธรรมดา อีกทั้งยังมี เข็มขัดรัดหน้ายาง (Steel Belt) ที่ให้มาถึง 2 เส้นที่ทำให้ยางเรียบ หน้ากว้างสม่ำเสมอ ช่วยกระจายน้ำหนักขณะบรรทุกของ จึงดีกว่ายางรถธรรมดา เพราะเสริมความแข็งแรงให้กับหน้ายาง เพื่อให้ยางรับน้ำหนักได้ดี และลดความเสียหายของยางจากแรงกระแทกขณะขับขี่

เซาะร่องดอกยางได้

อีกหนึ่งความแตกต่างของยางรถกระบะ คือ ยางของรถกระบะ มักจะมีเครื่องหมาย "REGROOVABLE" ระบุไว้อยู่ที่แก้มยาง ซึ่งหมายความว่า หากร่องดอกยางตื้นจนเห็นได้ชัด ก็สามารถนำยางไปเซาะร่องดอกยางใหม่ได้ ซึ่งต่างจากยางธรรมดาบางรุ่น ที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้ และต้องเปลี่ยนยางอย่างเดียวเท่านั้น

ชั้นเนื้อยางหนากว่า

โดยทั่วไปแล้ว ซับในชั้นเนื้อยางของรถกระบะ มีความหนากว่ายางรถยนต์ธรรมดาทั่วไป และมีส่วนประกอบของยางฮาโลบิวทิล (Halobutyl) ที่มีคุณสมบัติ ในการกักเก็บอากาศแรงดันสูง เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศซึมเข้าสู่ตัวยาง ทำให้ช่วยยืดอายุการใช้งานยางรถกระบะได้นานมากกว่า ยางรถยนต์ธรรมดา

ใช้ยางรถยนต์ทั่วไป ใช้แทนยางรถกระบะได้ไหม

การใช้ยางรถยนต์ทั่วไปแทนยางรถกระบะ เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ และไม่ควรทำ เนื่องจากยางรถยนต์ทั่วไป ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งาน สำหรับรองรับน้ำหนักขนาดใหญ่ ถึงแม้ว่า รถกระบะจะไม่ได้บรรทุกของขนาดใหญ่ แต่ก็อย่าลืมว่า รถกระบะก็มีน้ำหนักมากพอควรอยู่แล้ว และยิ่งหากใช้บางรถผิดประเภท อาจทำให้เกิด ยางแตก ยางระเบิด โช้คอัพเสีย และเกิดอุบัติร้ายแรงได้

ยางรถกระบะ 3 ประเภท กับการใช้งานที่แตกต่างกัน

โดยทั่วไปแล้ว ยางรถกระบะที่นิยมใช้งานสามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภทตามการใช้งาน ดังนี้

H3: 1. All Terrain (A/T)

ยางรถประเภท All Terrain (A/T) คือ ยางรถกระบะที่คนนิยมใช้ สามารถวิ่งได้ทั้งทางเรียบ และทางขรุขระ มีดอกยางขนาดใหญ่ และหนา ร่องดอกยางมีระยะห่างกันเล็กน้อย เพื่อให้ดอกยางสัมผัสพื้นผิวถนนได้มากที่สุด จุดเด่นของยาง All Terrain ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างคล่องตัวทุกพื้นผิวถนน และยางรถสามารถยึดเกาะได้ทั้งถนนเปียก และถนนแห้งได้เป็นอย่างดี เป็นยางรถกระบะที่เหมาะกับการขับรถในชีวิตประจำวัน ตามถนนในเมืองทั่วไป และสามารถใช้ลุยบนทางขรุขระได้ในระดับหนึ่ง

2. Highway Terrain (H/T)

ยางรถประเภท Highway Terrain (H/T) คือ ยางรถกระบะที่ผู้คนนิยมใช้เช่นกัน เพราะยางมีความนุ่มเงียบ มีความสะดวกสบายในการขับขี่ และเน้นการใช้งานบนถนนทางเรียบ หรือการวิ่งในเมืองเป็นหลัก ลักษณะลายดอกยาง จะเป็นลายดอกยางละเอียด (Rib Pattern) เป็นลายยาวตามเส้นแบบรอบวงยาง และมีดอกยางขนาดเล็ก จุดเด่นของยาง Highway Terrain จึงช่วยรีดน้ำออกจากตัวยางได้ดี และไร้เสียงรบกวนขณะขับขี่ เป็นอีกหนึ่งยางรถกระบะที่เหมาะสำหรับการใช้งานที่ไม่เน้นบรรทุก แต่เน้นวิ่งบนถนนทางเรียบทั่วไป หรือวิ่งบนเส้นทางขรุขระเล็กน้อย

3. Mud Terrain (M/T)

ยางรถประเภท Mud Terrain (M/T) คือ ประเภทของยางรถกระบะที่ถูกออกแบบมาสำหรับสายลุย หรือสายออฟโรดโดยเฉพาะ ซึ่งตัวยางก็จะมีความหนา และแข็งแรงกว่า ยาง All Terrain และยาง Highway Terrain ยางรถประเภทนี้ มีดอกยางแบบบล็อก (Block Pattern) มีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม หรือทรงกลม ทำให้จุดเด่นของยางประเภทนี้ มีประสิทธิภาพในการลุยน้ำ ลุยโคลน หรือการตะกุยดิน ตะกุยหินออกจากตัวยาง เหมาะกับการใช้งานที่เป็นทางทุรกันดาร หรือทางขรุขระที่ต้องลุยหนัก

เลือกยางรถกระบะยังไง ให้เหมาะกับการใช้งาน

เพราะยางรถยนต์ ถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญ ที่คอยรับน้ำหนักตัวรถ และการบรรทุกของ พร้อมทั้งเป็นตัวส่งการขับเคลื่อนให้คุณถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย ดังนั้น การเลือกยางรถกระบะ ให้เหมาะกับประเภทการใช้งานก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งมีข้อควรพิจารณาในการเลือกยางรถกระบะให้เหมาะสม ดังนี้

1. เลือกประเภทยางรถกระบะให้เข้ากับถนน

สำหรับรถกระบะที่ใช้ในชีวิตประจำวัน วิ่งบนถนนทางเรียบเป็นส่วนใหญ่ และไม่ได้บรรทุกของหนัก วิ่งบนถนนควรเลือกยางรถกระบะประหยัดน้ำมัน เพราะช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้มากกว่า หากต้องการความเร็วในการขับขี่ ควรเลือกยางรถกระบะแก้มเตี้ย ช่วยเพิ่มความเร็วในการขับขี่ และยางสามารถเกาะถนนระหว่างการขับขี่ หรือเข้าโค้งได้เป็นอย่างดี รวมถึงการใช้งานบนถนนขรุขระ ลุยโคลน ควรเลือกยางออฟโรด จะทำให้หิน ดินโคลน ไม่ติดตามร่องยาง สามารถรองรับแรงกระแทกได้สูง อีกทั้งยางประเภทนี้ก็จะยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี

2. เลือกขนาดยางรถกระบะให้พอดีกับตัวรถ

เนื่องจากรถกระบะที่ใช้งานมีหลายขนาด และน้ำหนักตัวรถที่ต่างกัน จึงควรเช็กขนาดรถยนต์ ก่อนการเปลี่ยนยางทุกครั้ง ควรเลือกยี่ห้อ รุ่น ขนาดของยางรถกระบะ ให้เหมือนกัน และควรเป็นยางรถกระบะที่มีขนาดพอดีกับตัวรถ ต้องไม่เล็ก หรือไม่ใหญ่เกินไป ที่สำคัญควรเปลี่ยนยางพร้อมกัน มากกว่าการเปลี่ยนยางทีละคู่ เพื่อให้ใช้งานในการขับขี่ได้อย่างปลอดภัย

3. เลือกยางรถกระบะที่รับน้ำหนักได้ดี

บ่อยครั้งการใช้งานรถกระบะ อาจจะไม่ได้บรรทุกของหนักที่ท้ายกระบะเสมอไป แต่อย่าลืมว่า น้ำหนักของรถกระบะ ก็มีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ทั่วไป และหากบรรทุกของหนักท้ายกระบะ ยางรถยนต์ก็จะรับน้ำหนักบรรทุกเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงควรเลือกยางรถกระบะ ที่มีความทนทาน และรับน้ำหนักได้ดี เพราะจะช่วยรองรับงานบรรทุกได้ทุกรูปแบบ 

4. เลือกดอกยางรถกระบะให้เหมาะสม

ดอกยางของรถยนต์ มีหน้าที่ช่วยให้ล้อยึดเกาะกับถนน ทั้งถนนแห้งและถนนเปียก รวมถึงช่วยรีดน้ำออกจากล้อรถขณะขับขี่บนพื้นเปียก หรือน้ำท่วมขัง จึงควรเลือกดอกยางรถกระบะ ให้เหมาะสมกับการขับขี่บนท้องถนน เพื่อให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย โดยสามารถเลือกดอกยางรถยนต์ให้เหมาะกับการใช้งาน ได้ดังนี้

  • ดอกยางละเอียด (Rib Pattern) มีจุดเด่น คือ มีแนวเส้นยาวตามรอบวงยาง จึงรีดน้ำออกจากล้อได้เร็ว เหมาะกับขับขี่บนถนนในเมือง

  • ดอกยางบั้ง (Lug Pattern) ลักษณะลายดอกยาง เป็นแนวขวางตามเส้นรอบวงยาง และร่องยางมีความลึก มีจุดเด่นในเรื่องการใช้งานที่ทนทานกว่าดอกยางแบบอื่น เหมาะกับถนนผิวขรุขระ พื้นผิวดิน หรือหินเป็นจำนวนมาก

  • ดอกยางผสม (Rib –Lug Pattern) เป็นดอกยางแบบผสมระหว่างดอกยางละเอียด และดอกยางบั้ง มีจุดเด่น คือ มีลายดอกยางละเอียดอยู่ตรงกลาง และลายดอกบางบั้ง อยู่ทั้งซ้ายและขวาของยาง จึงทำให้วิ่งได้ทั้งบนท้องถนนในเมือง และถนนขรุขระตามชนบทได้อย่างดี

  • ดอกยางบล็อก (Block Pattern) มีลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยม หรือทรงโค้ง มีช่องว่างระหว่างล็อกที่เห็นได้ชัดเจน มีจุดเด่นในการใช้งานที่เหมาะกับทุกสภาพถนน สามารถลุยไปได้ทุกที่ ทั้งพื้นโคลน ทางลูกรัง หรือเส้นทางออฟโรด

5. อย่าลืมดูอายุและสภาพยางรถกระบะ

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการใช้งานยางรถกระบะ ไม่ว่าบรรทุกหนัก หรือบรรทุกเบา คือ การหมั่นตรวจสอบสภาพยางรถกระบะ เป็นประจำทุกสัปดาห์ หรืออย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ว่ายางรถ ดอกยาง แก้มยาง มีรอยนูน รอยแตกหรือไม่ รวมถึงอายุการใช้งานของยางด้วย ถ้าหากถึงเวลาเปลี่ยน ก็ควรรีบเปลี่ยนให้ไวที่สุด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และยืดอายุการใช้งานของยางได้ยาวนานขึ้น

ยางรถกระบะ เลือกขอบยางเท่าไรดี

รถกระบะเป็นรถที่มีความโดดเด่น เรื่องของการบรรทุกสิ่งของ และเป็นรถที่สามารถขับลุยไปได้ทุกที่ ทำให้การเลือกยางของรถกระบะ ให้มีขนาดที่เหมาะสมต่อการใช้ ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยรับน้ำหนักของสิ่งของที่บรรทุก ลดความเสี่ยงเรื่องการเกิดอุบัติเหตุจากการที่ล้อรับน้ำหนักมากเกินความจำเป็น

โดยขอบยางรถกระบะที่นิยมใช้งาน มีด้วยกัน 2 แบบ คือ ยางรถกระบะขอบ 16 กับ 17 เป็นยางรถยนต์ที่เหมาะกับรถกระบะขนาดกลาง และรองรับการบรรทุกของหนักได้อย่างดี และยางรถกระบะขอบ 18 เป็นยางรถยนต์ที่เหมาะกับรถกระบะใหญ่ เหมาะกับพื้นผิวถนนทุกรูปแบบ

ยางรถกระบะ ราคาเท่าไร

ในส่วนของยางรถกระบะขอบ 16 จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท ต่อเส้น ยางรถกระบะขอบ 17 จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท ต่อเส้น และราคายางรถกระบะขอบ 18 จะอยู่ที่ประมาณ 6,000 บาทต่อเส้น

ยางรถกระบะ ยี่ห้อไหนดี

หากไม่รู้จะเปลี่ยนยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ก็ลองพิจารณาจากลักษณะของยางรถกระบะ ได้ตามนี้

  • MICHELIN Agilis 3 ยางรถกระบะรุ่นใหม่ ถูกพัฒนาจากรุ่น Agilis เนื้อยางมีส่วนประกอบของซิลิกาและคาร์บอนแบล็ค ช่วยเสริมความมั่นใจในการเบรกบนท้องถนน ทั้งพื้นแห้ง และพื้นเปียก มีร่องดอกยางแบบ FULL DEPTH SIPES ช่วยให้รีดน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยม

  • Bridgestone Duravis R611 ยางรถกระบะสไตล์นุ่ม เงียบ ลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ มีเนื้อยางแบบเฉพาะของ Duravis และร่องดอกยางตรง 4 ร่อง ช่วยยึดเกาะขอบถนน และขอบยางที่ถูกปรับให้สูงขึ้น ช่วยเสริมความแข็งแรง และรองรับกระแทกที่ขอบล้อได้ดีกว่าเดิม

  • YOKOHAMA BluEarth-VAN RY55 ยางที่มีความแข็งแกร่ง และใช้งานได้ยาวนาน มีร่องดอกยางตรง 3 ร่อง และบล็อกดอกยางทรงสามเหลี่ยม เพิ่มสมรรถนะการยึดเกาะถนน ขณะขับขี่บนพื้นถนนเปียก ช่วยให้ระยะเบรกสั้นลง 9% ลดแรงต้านทานการหมุนของล้อถึง 19% จึงประหยัดน้ำมันได้มากกว่า

  • Dunlop SP LT37 ยางรถกระบะสไตล์อเนกประสงค์ ตอบโจทย์ทุกการขับขี่ มีจุดเด่นที่ความ นุ่ม เงียบ จึงสะดวกสบายในการขับขี่ และยางแข็งแรง ทนทาน สามารถบรรทุกของได้หลากหลาย มีลายดอกยางแบบละเอียด และร่องดอกยาง 4 ร่อง ทำให้รีดน้ำได้รวดเร็ว อีกทั้ง เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง ก็สามารถยึดเกาะถนนได้ดี

  • Deestone Titanz T88 ยางรถกระบะที่แข็งแรงที่สุด โดดเด่นด้วยการออกแบบสูตรพิเศษ ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับเนื้อยาง รองรับการใช้งานบรรทุกหนัก สามารถยึดเกาะถนนได้ดี และป้องกันความเสียหายของแก้มยางไม่ให้สึกหรอ

สรุป

ยางรถกระบะ คือ ยางรถสำหรับการบรรทุกของหนัก เป็นยางที่สามารถขับขี่ได้กับทุกพื้นผิวบนถนน ซึ่งยางรถกระบะ มีความแตกต่างจากยางรถทั่วไปตรงที่ ยางรถกระบะจะมีความแข็งแรง คงทน และมีขนาดล้อที่ใหญ่กว่า เพื่อรองรับน้ำหนักบรรทุก ซึ่งการเลือกใช้ยางรถกระบะ ควรเลือกให้เหมาะสมกับประเภทของการใช้งาน ไม่ว่าจะขับขี่ในเมือง เพื่อการขับขี่ที่นุ่มสบาย หรือการขับขี่ตามเส้นทางออฟโรด เพื่อให้สามารถลุยไปได้กับทุกพื้นผิว 

ใครที่กำลังมองหายางรถกระบะไว้ใช้งาน ทาง Autobacs Thailand ก็มียาง EV ซึ่งเป็นยางจากยี่ห้อชั้นนำ ที่มาพร้อมคุณสมบัติของยาง ที่สามารถยึดเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมมีบริการจากช่างผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ เรียกได้ว่า เมื่อมาที่นี่แล้วก็ ครบ-เคลียร์-จบ ทุกเรื่องรถ ในที่เดียว


autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autobacsสาระน่ารู้อื่นๆ

E-mail

Call Center

autobacs-contact

LINE Official

autobacs-line

Messenger

autobacs-messenger
to-top