Picture of the author
autobacsautobacs
autobacs

แอร์รถยนต์ไม่เย็น มีแต่ลมเกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร


วันที่เผยแพร่: 9 ส.ค. 2567

แชร์ไปยัง

แอร์รถยนต์ไม่เย็น และมีแต่ลมเกิดจากอะไร มีวิธีแก้ไขเบื้องต้นอย่างไร

Key Takeaway

  • ปัญหาแอร์รถไม่เย็น สังเกตได้จากตัวแอร์ที่ไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ แม้จะปรับอุณหภูมิให้เย็นที่สุดแล้วแต่แอร์รถก็ยังไม่เย็นขึ้น หรือมีเสียงแปลกๆ ดังออกมาจากช่องแอร์

  • หากปล่อยปัญหาแอร์รถไม่เย็นไว้นานเกินไป อาจทำให้แอร์เสียหายมากยิ่งขึ้น ต้องซ่อมมากกว่าเดิม ควรรีบเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็กระบบของแอร์โดยทันที

  • สาเหตุแอร์รถยนต์ไม่เย็น เกิดได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นแผงคอยล์ คอมเพรสเซอร์ พัดลมแอร์ ตัวไส้กรอง ระบบไฟมี รวมถึงน้ำยาแอร์ที่หมด หรือรั่วซึม และเครื่องยนต์ที่ร้อนจนเกินไป

  • ป้องกันปัญหาแอร์รถไม่เย็นได้ง่ายๆ ด้วยการระบายความร้อนภายในรถก่อนเปิดแอร์ และหมั่นตรวจไส้กรองแอร์ หรือเปลี่ยนทุกๆ 1 ปี

  • การใช้น้ำยาแอร์ให้เหมาะกับประเภทรถยนต์ก็สามารถถนอมตัวแอร์ให้ทำงานได้ดี เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

  • หากพบว่าแอร์ทำงานผิดปกติ ควรรีบนำรถยนต์ไปเข้าศูนย์ทันที เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดมากขึ้น



เมื่อใช้งานรถยนต์ไปนานวันเข้า เจ้าของรถยนต์ส่วนใหญ่ก็มักจะพบกับปัญหาแอร์รถเย็นบ้างไม่เย็นบ้าง หรือแอร์รถไม่เย็น มีแต่ลม ถือว่าเป็นปัญหาที่น่ารำคาญใจสุดๆ เพราะถ้าหากเจอกับปัญหานี้ ก็ต้องเปิดกระจกรถ เพื่อให้มีลมเข้ามาในรถ แต่ก็ต้องทนกับลมร้อนๆ และฝุ่นผงต่างๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ปัญหาเกี่ยวกับแอร์รถมักเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคนจึงควรศึกษาการแก้ไขเบื้องต้นไว้ก่อน บทความนี้จะพาไปดูว่าแอร์รถไม่เย็นเกิดจากอะไร แล้วจะแก้ไขได้อย่างไร ไปดูกันเลย

ปัญหาแอร์รถไม่เย็น เป็นอย่างไร

ปัญหาแอร์รถไม่เย็น หรืออาการผิดปกติของแอร์รถยนต์ สามารถสังเกตได้ไม่ยากเลย เพราะเมื่อเราเปิดใช้งานแอร์แล้ว พบว่าแอร์ไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ แม้จะปรับอุณหภูมิให้เย็นที่สุดแล้วแต่แอร์รถก็ยังไม่เย็นขึ้นเลย หรือมีเสียงแปลกๆ ดังออกมาจากช่องแอร์ ปัญหาเหล่านี้ถ้าหากปล่อยไว้นานเกินไป อาจทำให้แอร์มีความเสียหายเพิ่มมากขึ้น และต้องซ่อมมากกว่าเดิม ดังนั้นหากพบว่าแอร์มีปัญหา ก็ควรรีบเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็กระบบของแอร์โดยทันที

รวม 11 สาเหตุของปัญหาแอร์รถไม่เย็น และมีแต่ลม 

ปัญหาแอร์รถเย็นบ้างไม่เย็นบ้าง หรือแอร์รถไม่เย็น มีแต่ลม อาจเกิดได้จากหลายๆ สาเหตุ แต่มีสาเหตุหลักๆ 11 สาเหตุด้วยกัน ดังนี้

1. แผงคอยล์แอร์ร้อน (Condenser) เสีย

แผงคอยล์แอร์ร้อนมีรูปร่างคล้ายหม้อน้ำ จะทำหน้าที่ระบายความร้อนให้กับน้ำยาแอร์ ถ้าหากแผงคอยล์เสีย แตกหัก มีการทำงานได้ไม่เต็มที่หรือไม่ทำงานเลย จะทำให้แอร์รถไม่เย็นในขณะที่รถจอดอยู่กับที่ หรือแอร์เย็นเฉพาะตอนรถวิ่งเท่านั้น

ปัญหาแผงคอยล์แอร์ร้อนเสีย สามารถสังเกตได้โดยการสตาร์ตรถและเปิดแอร์ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นเปิดฝากระโปรง เพื่อดูพัดลมที่อยู่ตรงแผงคอยล์ ในขณะที่คอมเพรสเซอร์ทำงาน ตรวจสอบว่าพัดลมมีอาการหมุนช้าหรือมีเสียงแปลกๆ หรือไม่ ถ้าหากพบว่ามี นั่นแสดงว่าแผงคอยล์แอร์ร้อนกำลังมีปัญหา สามารถแก้ไขได้โดยการเปลี่ยนแผงคอยล์ร้อนใหม่ทันที

2. คอมเพรสเซอร์เสีย

คอมเพรสเซอร์ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของระบบปรับอากาศเลยก็ว่าได้ เพราะตัวคอมเพรสเซอร์จะทำหน้าที่เป็นแกนหลักในการทำให้เกิดวัฎจักรการทำความเย็นในระบบ สร้างความเย็นให้กับภายในรถยนต์ขณะเปิดแอร์ หากคอมเพรสเซอร์เสีย จะส่งผลให้แอร์รถไม่เย็นได้นั่นเอง

สาเหตุที่คอมเพรสเซอร์มีหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น คลัตช์คอมเพรสเซอร์ลื่น หรือจับกันไม่สนิท สามารถแก้ได้โดยตั้งระยะคลัตช์หรือปรับแต่งหน้าคลัตช์ใหม่ หรือลูกสูบภายในหลวมก็ควรที่จะเปลี่ยนลูกสูบใหม่ หรือสายพานหย่อนเกินไป สามารถแก้ไขโดยการปรับระดับสายพานให้ตึง หรือถ้าคอมเพรสเซอร์เสื่อมสภาพตามเวลา ก็ให้ทำการเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ใหม่ 

3. น้ำยาแอร์รถรั่วซึม

แอร์รถไม่เย็น มีแต่ลม นั่นอาจจะเป็นเพราะน้ำยาแอร์รถรั่วซึม ซึ่งจะต้องตรวจสอบตั้งแต่ตู้แอร์ ข้อต่อต่างๆ สายท่อแอร์ สาเหตุรอยรั่วนั้นอาจมาจากการกัดกร่อนของน้ำยาล้างแอร์ 

เจ้าของรถยนต์สามารถตรวจสอบรอยรั่วเองได้จากการใช้น้ำผสมสบู่ทาตามจุดต่างๆ ถ้าหากบริเวณไหนมีรอยรั่ว ก็จะมีฟองสบู่ขึ้นมาตามจุดนั้นๆ หากมั่นใจว่ามีรอยรั่วแล้ว ให้ทำการเปลี่ยนแอร์รถทันที 

4. พัดลมแอร์มีปัญหา

เมื่อความเย็นภายในรถยนต์เริ่มลดลง ตัวพัดลมแอร์ จะทำหน้าที่ส่งลมผ่านเข้ามาทางช่องแอร์ ทำให้มีแรงลมถูกเป่าออกมา ซึ่งพัดลมแอร์มักจะเป็นปัญหาสำหรับรถยนต์เก่าๆ หรือรถยนต์ที่ใช้งานมาเป็นเวลานานแล้ว เพราะมอเตอร์ในตัวพัดลมแอร์เก่าและเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา สามารถแก้ไขได้โดยเปลี่ยนมอเตอร์ในกรณีที่เสื่อมสภาพ หรือถ้าพบว่ามีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันและส่งผลให้พัดลมแอร์ทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ก็สามารถแก้ไขได้โดยกำจัดสิ่งสกปรกเหล่านั้น

5. ฟิวส์มีปัญหา

ฟิวส์มีปัญหา ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แอร์รถไม่เย็น ไม่ว่าจะเป็นฟิวส์ไหม้หรือฟิวส์ขาด ซึ่งส่งผลให้ไฟไม่เข้าคอมเพรสเซอร์แอร์ หรือส่งผลต่อวงจรไฟฟ้าอื่นๆ ภายในรถยนต์ จนทำให้เกิดความเสียหายต่างๆ และทำให้การงานของแอร์รถยนต์มีปัญหาระบบแอร์ทำงานได้ไม่เต็มที่ ถ้าหากพบว่าฟิวส์มีปัญหา ก็สามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยการเปลี่ยนฟิวส์ใหม่ 

6. ระบบไฟไม่ทำงาน

สำหรับรถยนต์เก่าๆ หรือรถยนต์ที่ใช้งานมาเป็นเวลานานแล้ว มักจะมาพร้อมกับปัญหาแอร์รถเย็นบ้างไม่เย็นบ้าง ซึ่งระบบไฟฟ้านั้นมีความสำคัญต่อแอร์รถยนต์ ถ้าหากระบบไฟไม่ทำงาน หรือระบบไฟเกิดการลัดวงจร ก็ทำให้แอร์รถไม่เย็นได้ ซึ่งรถเก่านั้นจะเจอกับปัญหานี้ได้มากกว่ารถใหม่ และสามารถแก้ปัญหานี้ได้ โดยการไปที่ศูนย์หรือร้านซ่อม เพื่อซ่อมระบบไฟ 

7. ไส้กรองแอร์อุดตัน

ไส้กรองแอร์ ทำหน้าที่ดักจับฝุ่นละออง เศษใบไม้ หรือเศษขยะเล็กๆ ที่ติดมากับระบบระบายอากาศ ถ้าหากแอร์รถไม่เย็น มีแต่ลม ก็อาจจะมีสาเหตุมาจากไส้กรองแอร์ที่อุดตันไปด้วยสิ่งสกปรกหรือฝุ่นผง ส่งผลให้ระบบการทำงานของแอร์ไม่ได้ประสิทธิภาพ ซึ่งปัญหานี้สามารถสังเกตได้จากลมแอร์ที่ออกมา ที่มักจะเป็นลมอุ่นๆ และมีกลิ่นอับออกมาด้วย ถ้าหากพบว่าไส้กรองแอร์มีสิ่งสกปรกหรือฝุ่นเกาะ ให้ถอดมาเป่า ล้างและทำความสะอาด

วิธีป้องกันไส้กรองแอร์อุดตันนั้น ก็คือการเปลี่ยนไส้กรองแอร์ทุกๆ 1 ปี หรือตรวจสอบไส้กรองแอร์ทุก 10,000 กิโลเมตรว่ามีสิ่งสกปรกอุดตันหรือไม่ หรือเปลี่ยนไส้กรองแอร์เมื่อรถยนต์เดินทางเป็นระยะ 20,000 กิโลเมตร และถ้าหากพบว่าไส้กรองแอร์มีความสกปรกมาก ก็สามารถเปลี่ยนได้ทันที เพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

8. ฟิล์มกรองแสงเสื่อม

ฟิล์มกรองแสงมักจะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ซึ่งการที่ฟิล์มกรองแสงมีการเสื่อมสภาพลงไปเรื่อยๆ ทำให้รังสีความร้อนทะลุเข้ามาในรถยนต์มากขึ้น จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แอร์รถยนต์เสื่อมลงไปด้วยนั่นเอง 

วิธีการป้องกันฟิล์มกรองแสงเสื่อม สามารถทำได้โดยการไม่จอดรถไว้กลางแดด จอดไว้ในที่ร่มๆ เพื่อเป็นการลดความเสื่อมสภาพของฟิล์มกรองแสง หรือควรเลือกติดฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพดี

9. ใช้น้ำยาแอร์ผิดประเภท

น้ำยาแอร์เป็นสิ่งสำคัญที่จะส่งผลต่อความเย็นภายในรถยนต์ ซึ่งการเลือกน้ำยาแอร์รถยนต์ เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้าหากเลือกน้ำยาแอร์ผิดประเภทหรือน้ำยาแอร์ปลอม ก็จะเกิดความเสียหายแก่ระบบการทำงานของแอร์รถยนต์ ทำให้การทำความเย็นที่ไม่มีสิทธิภาพ และส่งผลให้ระบบแอร์ไม่สามารถทนต่อแรงดันของน้ำยาแอร์ได้จนอาจจะมีการระเบิดเกิดขึ้น

วิธีสังเกตว่าใช้น้ำยาแอร์ผิดชนิดหรือไม่นั้น ให้ดูจากความเย็น ว่าเย็นปกติหรือไม่ ถ้าหากพบว่าแอร์รถไม่เย็น ให้รีบเปลี่ยนน้ำยาแอร์ทันที โดยเลือกน้ำยาแอร์ให้ตรงกับที่ผู้ผลิตระบุไว้ในคู่มือการใช้รถยนต์ 

10. น้ำยาแอร์หมด

โดยส่วนใหญ่แล้วสาเหตุของแอร์รถไม่เย็นนั้น มักจะมาจากน้ำยาแอร์หมด เมื่อน้ำยาแอร์หมด เหลือน้อย หรือมีการรั่วไหล ทำให้ปริมาณน้ำยาแอร์ที่ส่งจากคอมเพรสเซอร์เพิ่มแรงดันเข้าสู่แผงคอยล์เย็นในปริมาณที่น้อย และเข้าไปดูดจับความร้อนภายในรถยนต์ได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ยังคงมีอากาศร้อนอยู่ภายในรถยนต์ 

วิธีแก้แอร์รถไม่เย็นที่เกิดจากน้ำยาแอร์หมดนั้น จะต้องรีบไปร้านซ่อมทันที เพื่อเติมน้ำยาแอร์และให้ทางร้านซ่อมตรวจสอบการรั่วไหล อย่าฝืนเปิดแอร์รถยนต์เด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้นได้ 

11. เครื่องยนต์มีความร้อนสูง

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แอร์รถไม่เย็น คือการที่ตัวเครื่องยนต์มีความร้อนสูง เพราะว่าเครื่องยนต์ที่มีความร้อนสูงจะทำให้เกิดเป็นความร้อนสะสม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้แอร์รถยนต์ทำงานหนักเช่นกัน เพราะแผงคอยล์เย็นจะได้รับความร้อนไปด้วย 

วิธีแก้แอร์รถไม่เย็นที่เกิดจากเครื่องยนต์มีความร้อนสูง ให้นำรถยนต์ไปตรวจเช็กสภาพของพัดลมระบายความร้อนในเครื่องยนต์ว่ายังปกติดีหรือไม่ หากพบว่าพัดลมมีการเสื่อมสภาพ ให้รีบทำการเปลี่ยนใหม่ทันที 

วิธีป้องกันปัญหาแอร์รถยนต์ไม่เย็น ทำได้อย่างไร

ถ้าหากไม่อยากให้เกิดปัญหาแอร์รถไม่เย็น สามารถป้องกันได้ง่ายๆ ด้วยวิธี ดังนี้

  • ตรวจสอบไส้กรองแอร์ทุก 10,000 กิโลเมตร หรือเปลี่ยนไส้กรองแอร์เมื่อรถยนต์เดินทางเป็นระยะ 20,000 กิโลเมตร หรือเปลี่ยนทุกๆ 1 ปี

  • ก่อนจะขับรถ ควรระบายความร้อนภายในรถก่อนที่จะเปิดแอร์

  • ใช้น้ำยาแอร์ให้ถูกประเภทกับรถยนต์

  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

  • หลีกเลี่ยงการเปิดกระจกขณะขับรถ เพราะจะทำให้ฝุ่นที่อยู่ภายนอกเข้าไปอุดตันในตู้แอร์หรือไส้กรองแอร์มากขึ้น

  • หากพบความผิดปกติของแอร์ ให้รีบนำรถเข้าศูนย์หรือร้านซ่อมทันที เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากไปกว่าเดิม 

สรุป 

แอร์รถไม่เย็น แอร์รถเย็นบ้างไม่เย็นบ้าง มีหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งสาเหตุที่มาจากระบบแอร์โดยตรงหรือจากส่วนอื่นๆ ภายในรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นแผงคอยล์แอร์เสีย คอมเพรสเซอร์เสีย พัดลมแอร์มีปัญหา ไส้กรองแอร์อุดตัน หรือเครื่องยนต์มีความร้อนสูง ซึ่งวิธีป้องกันปัญหาแอร์รถยนต์ไม่เย็น สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการตรวจสอบไส้กรองแอร์ทุก 10,000 กิโลเมตร หรือเปลี่ยนไส้กรองแอร์เมื่อรถยนต์เดินทางเป็นระยะ 20,000 กิโลเมตร หรือทุก 1 ปี หรือถ้าหากหากพบความผิดปกติของแอร์ ให้รีบนำรถเข้าศูนย์หรือร้านซ่อมทันที เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากไปกว่าเดิม

สำหรับใครที่กำลังพบเจอปัญหาแอร์ไม่เย็น หาสาเหตุไม่เจอหรือแก้ไขไม่ได้ สามารถเข้ามาให้ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์หาสาเหตุให้ได้ที่ AUTOBACS ศูนย์บริการด้านรถยนต์อย่างครบวงจร พร้อมช่วยแก้ปัญหา ตรวจสอบความผิดปกติและซ่อมบำรุงรถยนต์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autobacsสาระน่ารู้อื่นๆ

E-mail

Call Center

autobacs-contact

LINE Official

autobacs-line

Messenger

autobacs-messenger
to-top