-01.jpg)
เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องคืออะไร ควรเปลี่ยนตอนไหน
Post Date: 9 Aug 2024
การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องคืออะไร ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตอนไหน
Key Takeaway
น้ำมันเครื่อง คือ สารหล่อลื่นสำหรับเครื่องยนต์ ช่วยลดการเสียดทานได้ ในขณะที่เครื่องยนต์มีการเคลื่อนไหว
น้ำมันเครื่องมี 3 ชนิด ได้แก่ น้ำมันเครื่องธรรมดา น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์
ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเมื่อถึงระยะทางที่กำหนดทุกๆ 10,000 กิโลเมตร หรือทุกๆ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำมันเครื่อง
หากไม่ได้มีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง จะส่งให้รถเร่งไม่ค่อยขึ้น ส่วนประกอบภายในรถยนต์สึกหรอ เครื่องยนต์ทำงานหนัก และเกิดความเสียหาย
เปลี่ยนน้ำมันเครื่องราคาจะเริ่มต้นที่ 1,000 บาท ซึ่งการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสำหรับระบบเครื่องยนต์ดีเซล ราคาจะสูงกว่าการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องระบบเครื่องยนต์เบนซิน
Autobacs เป็นศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร มีทั้งช่างที่ชำนาญ และเครื่องมือทันสมัย พร้อมตรวจเช็กสภาพรถ และเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้ ด้วยน้ำมันเครื่องคุณภาพที่เหมาะสมกับรถยนต์
การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนั้นเป็นสิ่งสำคัญต่อรถยนต์ เพราะน้ำมันเครื่องที่ถูกใช้ไป จะมีการเสื่อมสภาพลงไปเรื่อยๆ จึงทำให้ประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่องไม่เหมาะแก่การใช้งานอีกต่อไป จึงไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ถ้าหากไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตามระยะเวลาที่ควรเปลี่ยน ก็อาจส่งผลเสียต่างๆ ต่อระบบเครื่องยนต์ได้
น้ำมันเครื่องคืออะไร มีกี่ประเภท
น้ำมันเครื่อง คือ สารหล่อลื่นสำหรับเครื่องยนต์ ที่ทำหน้าที่เคลือบชิ้นส่วนของโลหะ ซึ่งช่วยลดการเสียดทานได้ ในขณะที่เครื่องยนต์มีการเคลื่อนไหว น้ำมันเครื่องจึงมีความสำคัญต่อระบบเครื่องยนต์ ดังนั้น ผู้ขับขี่รถยนต์จะต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เมื่อถึงกำหนดเวลา ซึ่งน้ำมันเครื่องแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ดังนี้
1. น้ำมันเครื่องธรรมดา
น้ำมันเครื่องธรรมดา เป็นน้ำมันเครื่องที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ออกมาเป็นน้ำมันหล่อลื่น สามารถใช้งานได้ 3,000-5,000 กิโลเมตร หรือมีอายุประมาณ 3 เดือน ซึ่งการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องธรรมดา จะมีราคาที่ถูกกว่าน้ำมันเครื่องชนิดอื่น
2. น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์
น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ เป็นน้ำมันเครื่องที่ได้จากน้ำมันธรรมชาติ และทำการเติมสารสังเคราะห์เข้าไป เพื่อให้เหมาะสมกับการนำมาใช้งาน สามารถใช้งานได้ 10,000 กิโลเมตร หรือมีอายุประมาณ 6 เดือน
3. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ เป็นน้ำมันเครื่องที่มีสารสังเคราะห์ 100 % สามารถใช้งานได้ 12,000-15,000 กิโลเมตร หรือมีอายุประมาณไม่เกิน 1 ปี และมีราคาแพงที่สุด สำหรับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
เมื่อไรที่ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
สำหรับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง มีวิธีสังเกตว่าควรเปลี่ยนตอนไหน ดังนี้
เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเมื่อถึงระยะทางที่กำหนด
สามารถสังเกตป้ายน้ำมันเครื่องที่แขวนอยู่ตรงข้างพวงมาลัยของรถยนต์ ซึ่งป้ายนั้นจะมีการแจ้งระยะทางที่ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเอาไว้ โดยดูเลขไมล์รถยนต์ และเทียบกับตัวเลขในแผ่นป้ายนั้น แต่ส่วนใหญ่แล้ว การถ่ายน้ำมันเครื่องจะต้องทำทุกๆ 10,000 กิโลเมตร แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำมันเครื่อง และการใช้งานรถยนต์ด้วย
น้ำมันเครื่องธรรมดา ควรเปลี่ยนทุกระยะ 5,000 กิโลเมตร
น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ควรเปลี่ยนทุกระยะ 10,000 กิโลเมตร
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ ควรเปลี่ยนทุกระยะ 12,000-15,000 กิโลเมตร
เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามเวลาที่กำหนด
การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามเวลาที่กำหนดนั้น เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ไม่ได้เดินทางบ่อยๆ โดยไม่จำเป็นจะต้องดูที่ตัวเลขไมล์ แต่ให้ดูตามระยะเวลาแทน ซึ่งควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 6 เดือน ถึงแม้ว่ารถยนต์จะไม่ได้ถูกใช้งานบ่อยๆ แต่น้ำมันเครื่องก็เสื่อมสภาพตามเวลาได้ ดังนั้น การถ่ายน้ำมันเครื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงเวลาที่กำหนดไว้ หากพบว่าน้ำมันเครื่องมีสีดำ หรือมีปริมาณลดลง ก็สามารถเปลี่ยนได้ทันที
น้ำมันเครื่องธรรมดา ควรเปลี่ยนทุกๆ 6 เดือน
น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ควรเปลี่ยนทุกๆ 6 เดือน
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ ควรเปลี่ยนทุกๆ 6 เดือน
เตรียมอุปกรณ์สำหรับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
สำหรับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เพื่อให้เป็นไปอย่างสะดวก เพียบพร้อมที่สุด จะต้องเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้
น้ำมันเครื่อง โดยให้ตรงกับปริมาณที่เครื่องยนต์ต้องใช้
ไส้กรองใหม่
คีมปากนกแก้ว
อ่างสำหรับรองน้ำมันเครื่อง
ผ้าสำหรับเช็ดมือ
ถุงมือยาง
กรวย ไว้เติมน้ำมัน
7 ขั้นตอนในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
ขั้นตอนในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง มีดังนี้
1. เลือกน้ำมันเครื่อง
การเลือกน้ำมันเครื่อง จะต้องเลือกแบบที่เหมาะสมกับรถยนต์ สามารถป้องกันเครื่องยนต์ เพื่อให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยตรวจสอบคู่มือของรถยนต์ ว่าเหมาะสมกับน้ำมันเครื่องแบบไหน
2. เตรียมรถให้พร้อม
ก่อนที่จะเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง จะต้องเตรียมรถให้พร้อมก่อน โดยการอุ่นเครื่องรถรอไว้ประมาณ 10 นาที เพื่อให้น้ำมันเครื่องเก่าไหลออกมาง่าย หลังจากนั้นให้ดับเครื่องรถยนต์ และเปิดฝากระโปรงรถ ข้อควรระวังคือ ห้ามสตาร์ตรถยนต์ทิ้งไว้ ถ้าหากไม่มีน้ำเครื่อง
4. ถ่ายน้ำมันเครื่องเก่า
หลังจากนั้น ให้วางถาดรองน้ำมันไว้ที่ใต้ท่อทิ้งน้ำมัน และใช้คีมหมุนให้เปิดออก เพื่อให้น้ำมันเครื่องเก่าไหลลงมา
5. ถอดไส้กรองออก
ให้เปิดที่กรองน้ำมัน โดยการหมุนฝาด้วยคีม และหยิบไส้กรองอันเก่าออก ให้หยิบอย่างระมัดระวังท่อกรองน้ำมันที่ร้อน หลังจากถอดไส้กรองแล้ว ให้วางห่างจากเครื่องยนต์ และเทน้ำมันเครื่องเก่าออก
6. เปลี่ยนไส้กรองใหม่
ใช้ผ้าเช็ดรอบๆ บริเวณขอบปากที่กรองที่เครื่องยนต์ หลังจากนั้นใส่ที่กรองอันใหม่ แล้วใช้นิ้วลูบน้ำมันบริเวณรอบๆ ขอบของไส้กรองอันใหม่ จากนั้นให้ทำความสะอาดท่อน้ำมัน และใส่กลับไปที่เดิม ใช้ครีมหมุนให้แน่น แต่อย่าแน่นจนเกินไป
7. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่ใส่เข้าไป
เปิดฝาขวดน้ำมันเครื่อง แล้วเติมน้ำมันเครื่องลงไปตามปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่าเติมลงไปในปริมาณที่เหมาะสม ให้ตรวจสอบด้วยไม้วัด หลังจากนั้นให้ปิดฝา ต่อมาให้สตาร์ตเครื่องยนต์ทิ้งไว้ เพื่อตรวจสอบว่าน้ำมันมีปริมาณที่เหมาะสมหรือไม่ และให้ตรวจสอบดูที่รูบริเวณด้านล่าง ว่ามีการรั่วซึมหรือไม่
8. ทิ้งน้ำมันเครื่องใหม่ให้ถูกวิธี
น้ำมันเครื่อง เป็นมลพิษอย่างหนึ่งต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะต้องทิ้งน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้ว ในที่ที่ถูกต้องและเหมาะสม โดยนำน้ำมันเครื่องใส่ในภาชนะที่ปิดมิดชิด หรือนำไปทิ้งที่โรงขยะที่รับน้ำมันเก่า เพื่อส่งต่อให้โรงงานนั้นนำไปรีไซเคิล หรือกำจัดอย่างถูกวิธี ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ถ้าไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง จะเกิดอะไรขึ้นกับรถยนต์
ถ้าหากรถยนต์ที่ขับอยู่เป็นประจำ หรือจอดทิ้งไว้นานๆ โดยไม่ได้มีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเลย ก็จะส่งผลเสียต่างๆ ต่อรถยนต์ ดังนี้
รถเร่งไม่ค่อยขึ้น
ถ้าหากน้ำมันเครื่องเก่ามีระยะการใช้งานที่นาน และไม่ได้มีการเปลี่ยนใหม่ ก็จะทำให้น้ำมันเครื่องมีความหนืด ส่งผลให้รถยนต์เร่งไม่ค่อยขึ้น การเคลื่อนที่ของรถไม่ลื่นไหล
ส่วนประกอบภายในรถยนต์สึกหรอ
น้ำมันเครื่อง มีหน้าที่ช่วยให้ส่วนประกอบภายในรถยนต์ ที่เป็นโลหะไม่เสียดสีกัน ถ้าหากน้ำมันเครื่องที่ถูกปล่อยทิ้งไว้นาน โดยไม่ได้มีการถ่ายน้ำมันเครื่อง จะทำให้น้ำมันเครื่องนั้นเสื่อมสภาพลง ซึ่งอาจทำให้ส่วนประกอบภายในรถยนต์สึกหรอได้
เครื่องยนต์ทำงานหนัก
อาจทำให้รถยนต์กินน้ำมัน เกิดเสียงดัง ก่อมลพิษ หรือเครื่องยนต์ทำงานหนักมากขึ้น เมื่อมีการเร่งเครื่อง เนื่องจากน้ำมันเครื่องที่ไม่ได้ถูกเปลี่ยนเลย จะมีประสิทธิภาพที่ลดลงตามระยะเวลา
เครื่องยนต์มีความเสียหาย
หากใช้รถยนต์อยู่เป็นประจำ แต่ไม่เคยถ่ายน้ำมันเครื่องเลย อาจทำเครื่องยนต์มีความเสียหายได้ ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อซ่อมอย่างแน่นอน เนื่องจากน้ำมันเครื่องที่เก่า จะมีความสกปรก มีตะกอนฝุ่น ประสิทธิภาพลดลง จนความร้อนภายในเครื่องยนต์ไม่ระบายออก ทำให้เครื่องยนต์ร้อน และทำงานหนักขึ้น ซึ่งอาจทำให้ฝาสูบระเบิดได้
เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ราคาเท่าไร?
โดยทั่วไปแล้ว การนำรถยนต์ และรถกระบะไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ศูนย์ ราคาจะเริ่มต้นที่ 1,000 บาท ซึ่งการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสำหรับระบบเครื่องยนต์ดีเซล ราคาจะสูงกว่าการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ระบบเครื่องยนต์เบนซิน ทั้งนี้ สำหรับรอบการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันเครื่องด้วย
สรุป
น้ำมันเครื่อง คือ สารหล่อลื่นสำหรับเครื่องยนต์ ที่ทำหน้าที่เคลือบชิ้นส่วนของโลหะ ซึ่งช่วยลดการเสียดทานได้ ในขณะที่เครื่องยนต์มีการเคลื่อนไหว ดังนั้น เจ้าของรถจะต้องเลือกเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะทางหรือตามระยะเวลา ที่เหมาะสมกับการใช้งานของรถยนต์ ถ้าหากไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง จะเกิดผลเสียต่อเครื่องยนต์ อย่างเช่น ส่วนประกอบภายในรถยนต์สึกหรอ เครื่องยนต์ทำงานหนัก และเครื่องยนต์เกิดความเสียหาย
สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง พร้อมตรวจเช็กสภาพรถยนต์ ก็สามารถมาใช้บริการได้ที่ Autobacs เพราะที่นี่เป็นศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร มีทั้งช่างที่ชำนาญ และเครื่องมือทันสมัย พร้อมตรวจเช็กสภาพรถ และเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้ ด้วยน้ำมันเครื่องคุณภาพที่เหมาะสมกับรถยนต์ มีบริการที่ดีและปลอดภัยแน่นอน