Picture of the author
autobacsautobacs
autobacs

13 วิธีประหยัดน้ำมัน เทคนิคเล็ก ๆ ที่ช่วยเซฟเงิน


Post Date: 25 Jul 2024

Share to

13 วิธีประหยัดน้ำมัน ทำได้ทุกวัน เทคนิคเล็ก ๆ ที่เซฟเงินได้หลายเท่าตัว

คนใช้รถในยุคที่น้ำมันแพงขึ้นทุกวัน คงกำลังมองหาวิธีประหยัดน้ำมัน เพื่อเป็นการเซฟเงินในกระเป๋า เพื่อให้ใช้จ่ายน้อยที่สุด บทความนี้จะมาบอก 13 วิธีทำให้รถประหยัดน้ำมันที่ทำได้ทุกวัน และเป็นเทคนิคเล็ก ๆ สำหรับคนอยากประหยัดค่าใช้จ่ายต่อเดือนให้ได้มากขึ้นหลายเท่าตัว ดูพร้อมกันได้เลยที่นี่

1. ตรวจเช็กแรงดันลมอย่างสม่ำเสมอ หรืออย่างน้อยเดือนละครั้ง

ผู้ใช้รถหลายคน อาจยังไม่ทราบว่าการมีลมยางที่ดี อยู่ในเกณฑ์แรงดันลมตามมาตรฐานที่เหมาะสมกับการใช้งานรถยนต์ ไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน ลมยางไม่อ่อนนั้น เป็นหนึ่งในวิธีการประหยัดน้ำมันได้เยอะมากด้วยเช่นกัน เพราะหากลมยางอ่อน รถยนต์จะต้องใช้แรงเร่งพลังงานในการขับเคลื่อนมากขึ้น ส่งผลให้กินน้ำมันเยอะขึ้นกว่าเดิมและทำให้น้ำมันหมดไว เพราะฉะนั้น จึงควรตรวจเช็กแรงดันลมยางให้เป็นมาตรฐานพร้อมวิ่งรถอยู่เสมอ หรือเมื่อรู้ว่าลมยางเริ่มอ่อน ควรเข้าแวะเติมลมไว้เลย นอกจากจะเป็นการประหยัดน้ำมันรถแล้วยังเป็นการรักษาสภาพยางรถยนต์ให้มีอายุการใช้งานได้ยาวนาน รวมถึงจะได้ใช้งานยางรถยนต์ได้เต็มประสิทธิภาพอีกด้วย

2. ตั้งศูนย์ถ่วงล้อให้เหมาะสม

การตั้งศูนย์ถ่วงล้อให้เหมาะสมกับการใช้งานและน้ำหนักของการบรรทุกต่าง ๆ เป็นอีกหนึ่งวิธีประหยัดน้ำมันรถได้ดีมาก แนะนำให้ปรับศูนย์ถ่วงล้อตามสภาพการใช้งาน หากมีการใช้งานหนัก วิ่งรถเป็นระยะทางมาก ๆ ในทุกวัน หรือทั้งวิ่งรถยาวนานและต้องขนของบรรทุกน้ำหนักเพิ่มเติมจากเดิมอีก ต้องตั้งศูนย์ถ่วงใหม่ทันที เพื่อรักษาสภาพช่วงล่างให้มีประสิทธิภาพ ยืดอายุอะไหล่ต่าง ๆ และยังช่วงลดอัตราการกินน้ำมันสูงมาก ส่วนรถที่วิ่งใช้งานเป็นรถบ้านทั่วไปก็ไม่จำเป็นต้องปรับศูนย์ถ่วง

3. พยายามอย่าขับรถเร็ว ควรใช้ความเร็วที่ 60-90 กม./ชม.

หนึ่งในความเชื่อที่ได้ยินมาบ่อยมากของวิธีแก้รถเก๋งกินน้ำมันมักจะมีคำบอกต่อที่เชื่อกันว่า ยิ่งขับความเร็วต่ำ ๆ ขับรถช้า ๆ จะประหยัดน้ำมันได้เยอะมากกว่าการขับรถด้วยความเร็วสูง แต่ในความเป็นจริงแล้ว การขับรถด้วยความเร็วสูงหรือด้วยความเร็วน้อย ๆ ก็มีอัตราการเผาผลาญกินน้ำมันมากเหมือนกัน หากอยากได้วิธีทำรถประหยัดน้ำมันอย่างถูกต้องตลอดการเดินทาง ต้องขับรถด้วยความเร็วคงที่ และมีมาตรฐานอยู่ที่ 60 – 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งการเปลี่ยนความเร็วไปมาด้วยเกณฑ์มาตรฐานอัตราเร่งที่ต่างกันสลับบ่อย ๆ จะกินพลังงานสูงมากเพราะเครื่องยนต์ต้องมีการสับเปลี่ยนรูปแบบการจ่ายพลังงานไปมานั่นเอง

4. ไม่ควรเบรกถี่ ๆ หรือเหยียบเบรกกะทันหัน

ผลวิจัยจากทางอุตสาหกรรมรถยนต์มีข้อมูลเกี่ยวกับข้อเสียในการเหยียบเบรกกะทันหันออกมามากมาย หนึ่งในนั้นคือส่งผลให้รถยนต์ที่เหยียบเบรกกะทันหันกินน้ำมันเยอะมาก เปลืองพลังงานในการขับเคลื่อนสูงมากกว่า 40 % อีกทั้งยังส่งผลต่อระบบเครื่องยนต์ ความเสียหายต่ออะไหล่ช่วงล่างและตัวยางโดยตรง ลดอายุการใช้งานให้สั้นลงและโอกาสเกิดอันตรายจากความเสียหายในอะไหล่ต่าง ๆ ของการเหยียบเบรกกะทันหันมีสูงมาก ดังนั้นผู้ใช้รถจึงต้องมีสติ สมาธิ และการสังเกตถนนหนทางอยู่ตลอดเวลา เพื่อตัดสินใจควบคุมรถให้เด็ดขาด ลดโอกาสต้องเหยียบเบรกกะทันหัน

5. เลี่ยงการเหยียบคันเร่ง หรือออกรถแบบกระชาก

วิธีการออกรถอย่างถูกต้องคือการไม่ลากเครื่องยนต์ ไม่เบิ้ลเครื่องหรือเหยียบคันเร่งค้างไว้ก่อนออกรถ ไม่ทำการออกรถแบบกระชาก ถือเป็นพื้นฐานการขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์ที่เหมาะสม ถูกกฎหมาย และรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้มีการทำงานอย่างถูกต้อง ไม่เสียหายจากการเผาไหม้ออกรถผิดวิธีด้วยการกระชากรถ เบิ้ลรอบ และการออกรถแบบผิดวิธีนี้จะทำให้กินพลังงานน้ำมันเยอะมากกว่าปกติหลายเท่า เพราะตัวเครื่องยนต์จะดึงพลังงานน้ำมันมาใช้ตั้งแต่การเหยียบคันเร่งรอเบิ้ลเครื่อง หรือเพื่อเตรียมเพิ่มรอบเหยียบรอออกรถแบบกระชาก ไปจนถึงการดึงพลังงานน้ำมันต่อเนื่องในการขับขี่หลังออกตัวมาแล้วอีกระยะใหญ่ ๆ จึงมีการเผาผลาญเกินจำเป็น ทั้งเปลืองน้ำมัน และสร้างความเสียหายให้ระบบเครื่องยนต์เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

6. ปิดแอร์ก่อนจะถึงจุดหมาย 5-10 นาที

การปิดแอร์ก่อนถึงจุดหมายล่วงหน้า จะช่วยให้ระบบเครื่องยนต์มีการปรับการใช้พลังงานให้ลดลงและมีความเผาผลาญที่ต่อเนื่องสม่ำเสมอ รวมถึง การสตาร์ตรถครั้งถัดไปก็จะไม่มีการดึงพลังงานน้ำมันมาเผาผลาญ เป็นอีกหนึ่งวิธีในการประหยัดน้ำมันได้เยอะมากขึ้น ยิ่งทำเป็นนิสัยก็รับรองได้เลยว่าประหยัดเงินได้เยอะขึ้นหลายเท่าอย่างแน่นอน 

7. ไม่เปิดแอร์เย็นจนเกินไป

การเปิดแอร์รถยนต์ควรตั้งในอุณหภูมิที่เป็นมาตรฐานความเย็นปานกลาง ไม่ควรปรับอุณหภูมิแอร์ให้ต่ำ เพราะยิ่งเปิดแอร์เย็นมากเท่าไร ระบบเครื่องยนต์จะยิ่งดึงพลังงานจากการเผาผลาญน้ำมันมาจ่ายมากขึ้น ทำให้น้ำมันรถหมดไวขึ้นระหว่างการเดินทางอย่างเห็นได้ชัด 

8. ตรวจเช็กเครื่องปรับอากาศภายในรถ

การตรวจเช็กระบบเครื่องปรับอากาศภายในรถยนต์เป็นหนึ่งในจุดสำคัญที่หลาย ๆ คนมักมองข้าม เพราะสาเหตุที่ทำให้ผู้ใช้รถต้องเร่งแอร์เพิ่มความเย็นจนมีการเผาผลาญพลังงานน้ำมันอย่างสิ้นเปลืองอยู่บ่อย ๆ อาจมีสาเหตุมาจากปัญหาของระบบทำความเย็น ไส้กรอง คอยล์ของระบบแอร์ที่เริ่มมีคราบเหนียวหรือคราบฝุ่นสกปรกเกาะตามชิ้นส่วนอะไหล่ระบบทำความเย็นต่าง ๆ จึงทำให้อุณหภูมิและการปรับอากาศภายในรถยนต์ไม่มีความสดชื่น และไม่สามารถทำความเย็นได้ตามปกตินั่นเอง จึงต้องหมั่นทำความสะอาดหรือตรวจเช็กระบบปรับอากาศด้วยเช่นกัน รับรองว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีทำให้รถประหยัดน้ำมันและดูแลรักษาความสบายของระบบปรับอากาศภายในรถยนต์ให้ดีมากขึ้นอีกด้วย

9. ไม่บรรทุกของหนักเกินความจำเป็น

ยิ่งมีการเพิ่มน้ำหนักของการบรรทุกความจุไปยังรถยนต์มากขึ้นเท่าไร เครื่องยนต์ก็ต้องมีการดึงพลังงานและการเผาผลาญน้ำมันมากขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้น การบรรทุกน้ำหนักที่พอดีกับประเภทของรถยนต์จึงเป็นสิ่งสำคัญตั้งแต่การเลือกซื้อรถให้เหมาะสมกับการใช้งาน แต่หากใครที่เลือกประเภทรถยนต์เพื่อการบรรทุกแล้ว แต่ยังคงหลีกเลี่ยงการบรรทุกของหนักเยอะมาก ๆ ต่อเนื่องกันเป็นประจำไม่ได้ แนะนำวิธีการปรับศูนย์ถ่วงเพิ่มให้รองรับกับการใช้งานรถยนต์ประเภทเพื่อการบรรทุกให้เข้ากันมากขึ้น เป็นวิธีทำรถประหยัดน้ำมันที่หลายคนยังไม่รู้ แถมยังยืดอายุอะไหล่ส่วนอื่น ๆ ได้นานขึ้น

10. ใส่เกียร์ว่างเสมอ เมื่อรถติดไฟแดง

ไม่เพียงแค่การใส่เกียร์ว่างเมื่อติดไฟแดงหรือต้องมีการจอดรถเท่านั้น แต่การปรับเปลี่ยนเกียร์รถให้สัมพันธ์กับความเร็วรอบเครื่องยนต์แต่ละจังหวะเป็นเรื่องที่สำคัญที่ผู้ขับคนเกียร์ธรรมดาต้องฝึกฝนให้ชำนาญ เพราะการขับรถเกียร์ธรรมดาที่ถูกต้องคือการเข้าเกียร์ตามจังหวะของรอบเครื่องยนต์ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้ถูกต้อง ดึงพลังงานน้ำมันมาเผาผลาญได้อย่างเหมาะสม ไม่เปลืองน้ำมัน ไม่เกิดความเสียหายต่อระบบเครื่องยนต์และระบบอะไหล่ส่วนอื่น ๆ

11. ดับเครื่องยนต์เมื่อจอดรถเกิน 5 นาที

หากต้องแวะทำธุระชั่วครู่ อาจไม่ถึงกับต้องลงรถหรืออาจเป็นการชะลอจอดชั่วคราวก็ตาม ควรดับเครื่องยนต์เลยทันทีจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้เยอะมาก แม้ว่าจะแค่ 3 – 5 นาทีก็ตาม เพราะการที่รถยนต์ติดเครื่องไว้แล้วอยู่นิ่ง ๆ กับที่ ไม่ได้หมายความว่าระบบเครื่องยนต์จะไม่มีการดึงพลังงานน้ำมันมาเผาผลาญเพื่อหล่อเลี้ยงการทำงานของส่วนอื่น ๆ ทั้งระบบการทำความเย็น ระบบคงการทำงานของเครื่องยนต์ ระบบการเผาผลาญไอเสีย ระบบไฟฟ้า และอื่น ๆ ทั้งหมดล้วนดึงพลังงานน้ำมันมาใช้ทั้งสิ้น แนะนำให้ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งที่ไม่มีการวิ่งใช้งาน 

12. เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ตามระยะเวลา

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเก่าออก แล้วเติมน้ำมันเครื่องยนต์ใหม่เข้าไป เพื่อช่วยระบบขับเคลื่อน ระบบเครื่องยนต์ ระบบการเผาผลาญพลังงานทั้งหมด สามารถทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เครื่องยนต์ไม่ฝืด และไม่ก่อมลพิษด้านควันจากท่อไอเสียด้วย ซึ่งในส่วนของน้ำมันเครื่องยนต์จะไม่เกี่ยวกับระบบน้ำมันเชื้อเพลิงที่เติมไปเป็นคนละส่วน ดังนั้นผู้ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับระบบรถยนต์จึงไม่ต้องกังวลเมื่อต้องทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์ เป็นสิ่งที่ดีและควรทำอย่างสม่ำเสมอตามรอบกิโลที่ควรเปลี่ยน หรือหากมีการใช้งานรถยนต์ที่หนักต่อเนื่องกันนาน ๆ ก็สามารถเข้าแวะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องได้เลยเช่นกัน

13. ตรวจเช็กสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ

ภาพรวมที่ดีที่สุดสำหรับวิธีประหยัดน้ำมันของรถยนต์ คือการเข้าตรวจเช็กสภาพอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นระบบใด อะไหล่ส่วนไหน ควรเข้าตรวจเช็กที่ศูนย์บริการจากช่างผู้เชี่ยวชาญ ใช้เวลาไม่นาน และรับรองว่าได้อัตราการวิ่งนานมากขึ้น ประหยัดน้ำมันสูงขึ้น แถมยังได้รับการดูแลรักษาสภาพรถยนต์ให้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ เพิ่มความปลอดภัยและลดการเกิดอุบัติเหตุระหว่างขับขี่ที่อาจเกิดจากความเสียหายของตัวอะไหล่หรือระบบเครื่องยนต์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย โดยการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ หรือการเข้ารับการซ่อมบำรุงเฉพาะจุด สามารถหาศูนย์บริการใกล้บ้านง่าย ๆ ที่มีช่างผู้ชำนาญด้านนี้โดยเฉพาะได้ หากใครไม่รู้ว่าศูนย์ไหนมีบริการครบวงจรและมีเรตราคาของบริการต่าง ๆ รวมถึงประเภทอะไหล่ให้เลือกสรรตามงบประมาณได้ ต้องขอแนะนำ ศูนย์ AUTOBACS Thailand มีรายละเอียดทุกอย่างแนะนำสำหรับผู้ใช้รถครบครัน รอรับรถได้เลยทุกการตรวจเช็ก

สรุป

สำหรับผู้ใช้รถยนต์นั้น การเติมน้ำมันถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายเสริมที่ต้องมีการเพิ่มรายจ่ายต่อเดือนสูงขึ้นมาก เพราะฉะนั้นการมองหาวิธีประหยัดน้ำมันในการใช้งานรถยนต์ส่วนตัวให้เหมาะสม และเริ่มต้นได้ง่าย ๆ จากการใช้งานทั่วไป จึงเป็นเทคนิคสำคัญของวิธีประหยัดน้ำมันรถ ประหยัดเงินรายจ่ายต่อเดือนได้เยอะขึ้น แถมยังช่วยรักษาสภาพของระบบเครื่องยนต์ทำงานเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งวิธีการข้างต้นที่บทความนี้ได้แนะนำมาทั้งหมด อยากให้ผู้ใช้รถนำไปใช้ให้ครบทุกข้อ จะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนทันทีว่าการเผาผลาญพลังงานน้ำมันประหยัดขึ้น แถมยังมีเงินค่าน้ำมันต่อเดือนเหลือเก็บเหลือใช้เยอะมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน เป็นเทคนิคที่ใช้กับรถยนต์ได้ทุกประเภท ทุกสไตล์การใช้งานอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นรถเกียร์ธรรมดา เกียร์ออโต้ รถบรรทุกหนัก หรือรถบ้าน

นอกจากนี้เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนล้อ หรือถึงเวลาเช็กสภาพรถ รวมถึงความต้องการตรวจเช็กสภาพต่าง ๆ เพื่อการเดินทางไกลจากช่างผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรถยนต์ ควรนำรถเข้าศูนย์ AUTOBACS Thailand เป็นศูนย์บริการดูแลรถครบวงจร ใช้เวลาในการตรวจสอบสภาพ ตรวจเช็กระบบต่าง ๆ พร้อมการแก้ไขปัญหาทุกสภาพรถยนต์ไม่นาน มีห้องรับรองสำหรับลูกค้าที่รอรับรถได้เลยทันที ราคาทุกบริการคุ้มค่าและมีให้เลือกตามงบประมาณของผู้ใช้รถอย่างแน่นอน ทุกเรื่องรถต้องออโต้แบคส์เท่านั้น 


autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autobacsOTHER BLOGS

E-mail

Call Center

autobacs-contact

LINE Official

autobacs-line

Messenger

autobacs-messenger
to-top