เบรกแข็งมีอาการอย่างไร เกิดจากสาเหตุอะไร ตรวจเช็กง่าย ๆ ด้วยตนเอง

ระบบเบรกคือส่วนสำคัญของรถ เพราะเป็นระบบชะลอรถ หรือใช้ควบคุมให้รถหยุด การตรวจเช็กสภาพรถยนต์ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้ารถยนต์เกิดอาการเบรกแข็ง อาจทำให้การควบคุมรถมีความยากขึ้น จนทำให้เกิดอันตรายได้ บทความนี้จะพาไปดูว่าเบรกแข็งเกิดจากอะไร ควรรับมืออย่างไรเมื่อเกิดอาการเบรกแข็ง และวิธีป้องกันปัญหาเบรกแข็งสามารถทำได้อย่างไร 

อาการเบรกแข็ง เป็นยังไง

อาการเบรกแข็ง สามารถสังเกตได้จากขณะขับรถ และเวลาเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถหรือชะลอรถ ถ้าหากรถมีอาการเบรกแข็ง เหยียบไม่ลง หรือต้องออกแรงเหยียบเบรกมากกว่าปกติ อาจส่งผลให้เกิดอันตรายได้ในระหว่างขับขี่รถยนต์ ให้รีบนำรถยนต์ไปที่ร้านซ่อมหรือเข้าศูนย์ เพื่อให้ช่างมืออาชีพตรวจเช็กระบบของเบรกและแก้ไขหรือซ่อมโดยด่วน 

สาเหตุของอาการเบรกแข็ง เกิดจากอะไร

อาการเบรกแข็ง เกิดได้จากหลายสาเหตุ และสามารถเกิดได้จากทั้งระบบเบรกโดยตรงหรือเกิดจากส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเบรก ดังนี้

1. หม้อลมเบรกเสียหาย

หม้อลมเบรก คือ ตัวช่วยในการผ่อนแรงการเหยียบแป้นเบรก ซึ่งมีหน้าที่รักษาแรงดันสุญญากาศ เมื่อสตาร์ตรถ และเครื่องยนต์เริ่มทำงาน ท่อไอดีจะดูดอากาศเข้าไปข้างใน ทำให้หม้อลมเบรกเกิดภาวะสุญญากาศ จึงทำให้การเหยียบเบรกนั้นมีความนุ่มนวล ถ้าหากหม้อลมเบรกมีความเสียหาย ไม่สามารถรักษาแรงดันได้ ทุกครั้งที่เหยียบเบรก ก็จะไม่มีภาวะสุญญากาศมาช่วยทำให้เบรกนุ่มนั่นเอง

2. ท่อสุญญากาศเสื่อมสภาพ

ท่อสุญญากาศ จะเชื่อมต่อกับเครื่องยนต์และหม้อลมเบรก ซึ่งอากาศจะถูกดึงออกมาเพื่อสร้างสุญญากาศ แต่ถ้าหากท่อสุญญากาศมีการเสื่อมสภาพ เสียหายหรือชำรุด ก็จะก่อให้เกิดการสูญเสียสุญญากาศ ที่ส่งไปตามท่อสุญญากาศได้ในปริมาณที่น้อย จึงทำให้มีอาการเบรกแข็ง ต้องใช้แรงเหยียบเบรกมากกว่าปกติ เพราะแรงดันสุญญากาศไม่เพียงพอ ถ้าหากพบว่าท่อสุญญากาศมีปัญหา ให้รีบพบช่างและทำการเปลี่ยนใหม่ทันที 

3. ปั๊มสุญญากาศมีปัญหา

ปั๊มสุญญากาศเป็นส่วนหนึ่งของระบบเบรกรถยนต์ ทำงานร่วมกับหม้อลมเบรกที่ใช้แรงดันไฮดรอลิก ถ้าหากรถยนต์มีอาการเบรกแข็ง สาเหตุอาจจะมาจากปั๊มสุญญากาศมีปัญหา อย่างเช่น มีการทำงานที่ผิดปกติ ถ้าหากพบปัญหาเช่นนี้จะต้องให้ช่างตรวจสอบโดยด่วน

4. ก้ามปูเบรกเสียหาย

ก้ามปูเบรก คือ ส่วนประกอบของระบบดิสก์เบรก ซึ่งเป็นที่ตั้งของผ้าเบรก ทำหน้าที่บีบผ้าเบรกเข้ากับโรเตอร์ เพื่อหยุดรถหรือชะลอการหมุนของล้อ ซึ่งอีกสาเหตุที่ทำให้รถยนต์มีอาการเบรกแข็ง อาจจะมาจากก้ามปูเบรกเสียหาย หรือสกรูที่ยึดติดเสียหาย ทำให้ไม่สามารถยึดผ้าเบรกและจัดตำแหน่งผ้าเบรกให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมได้ จึงก่อให้เกิดอาการเบรกแข็ง ถ้าหากพบปัญหาเช่นนี้ ให้รีบนำรถยนต์ไปที่ร้านซ่อมหรือเข้าศูนย์ เพื่อให้ช่างตรวจเช็กระบบเบรกและทำการแก้ไขหรือซ่อมโดยด่วน 

5. มีตะกอนในสายเบรกหรือท่อเบรก

อาการเบรกแข็ง อาจจะเกิดจากการมีตะกอนในสายเบรกหรือท่อเบรกในจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุนี้จะเกิดจากน้ำมันเบรก ที่ทำหน้าที่ดูดซับความชื้น และเมื่อเข้าสู่ระบบเบรกจากการสัมผัสอากาศ จึงก่อให้เกิดการสะสมของความชื้น และมีตะกอนเกิดขึ้น เมื่อเกิดการสะสมของตะกอนในสายเบรกหรือท่อเบรก จะทำให้รู้สึกได้ว่าเบรกมีความแข็งทื่อเวลาเหยียบเบรก ทั้งนี้การป้องกันการเกิดตะกอนในสายเบรกหรือท่อเบรก ก็คือ ต้องเปลี่ยนน้ำมันเบรกอย่างน้อยทุก ๆ 2 ปี เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของตะกอน จนทำให้เบรกแข็งทื่อ

6. รีโมตแบตเตอรี่หมด

อาการเบรกแข็ง เหยียบเบรกไม่ลง อาจจะไม่มาจากระบบเบรกที่มีปัญหาเสมอไป ซึ่งอาจจะมาจากรีโมตแบตเตอรี่หมด ถือเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขโดยด่วน เพราะเมื่อรีโมตแบตเตอรี่หมด จะทำให้ไม่สามารถสตาร์ตรถได้นั่นเอง ถ้าสังเกตว่าเบรกแข็งทื่อ ให้ลองตรวจเช็กแบตเตอรี่ของรีโมตด้วย

เบรกแข็ง รับมือยังไง?

หากพบว่ารถเบรกแข็ง วิธีรับมือง่าย ๆ ก็คือ การเรียกช่างมาซ่อมรถโดยด่วน เพราะจะทำให้ช่างผู้เชี่ยวชาญสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างสะดวก ซึ่งเป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่รวดเร็ว และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันทีด้วย หรือในกรณีที่รถยนต์มีประกัน ให้นำรถยนต์ไปเข้าศูนย์ทันที ซึ่งการซ่อมระบบเบรก ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มด้วย เพราะในกรณีที่รถยนต์มีประกัน ก็จะมีการครอบคลุมในเรื่องของค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั่นเอง 

รวมวิธีดูแลระบบเบรก ป้องกันปัญหาเบรกแข็ง เบรกเสื่อม เบรกไม่ติด 

รู้กันไปแล้วกับสาเหตุของอาการเบรกแข็ง และวิธีรับมือ เมื่อรถยนต์เบรกแข็ง ต่อไปมาดูวิธีดูแลระบบเบรก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเบรกแข็ง เบรกเสื่อม และเบรกไม่ติด จะมีวิธีอะไรบ้าง มาดูกันเลย 

1. หมั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรก

สำหรับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรก ถึงแม้ว่าน้ำมันเบรกจะไม่ได้มีการรั่วหรือลดระดับลงก็ตาม ก็ควรเปลี่ยนถ่ายอย่างน้อยทุก 2 ปี เพราะน้ำมันเบรก มีส่วนประกอบหลักมาจากน้ำมันแร่ ซึ่งทำให้เกิดการรวมตัวกับไอน้ำจนเป็นสนิมบริเวณระบบเบรก หรือเกิดความร้อนที่สูงเกินไปจนทำให้เกิดฟองอากาศบริเวณท่อน้ำมัน หรือมีฝุ่นผงจากการสึกหรอของลูกยางเบรก จนไปเสียดสีกับแม่ปั๊มเบรก ซึ่งทำให้กระบอกเบรกมีความเสียหายเร็วขึ้น ทั้งนี้ การเลือกน้ำมันเบรก จะต้องเลือกใช้ให้ตรงตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตได้กำหนดไว้ด้วย

2. ตรวจสอบผ้าเบรกให้ดี

การตรวจสอบภาพเบรก สามารถสังเกตได้จากขณะขับรถ และเหยียบเบรก จะรู้สึกได้ว่าการเหยียบเบรกจะต่ำลง และขณะดึงเบรกมือจะสูงขึ้น ทั้งนี้การดูแลจานเบรก ควรทำการถอดจานเบรกมาทำความสะอาด เช็ดฝุ่น และตั้งระยะผ้าเบรกให้ใกล้และเหมาะสมขึ้น โดยการตั้งระยะผ้าเบรกนั้น จะต้องใช้ไขควง หมุนเฟืองให้ตั้งไปตามฟันด้านหลังจานเบรก และไขล้อให้แน่นขึ้น ถ้าหากขับรถและเหยียบเบรก แล้วพบว่า ล้อเริ่มหมุนฝืดขึ้น หรือมีเสียงดัง นั่นแสดงว่าผ้าเบรกมีปัญหา

3. อย่าลืมทำความสะอาดจานเบรก

หากพบว่าจานเบรกมีความสกปรก มีฝุ่นเกาะ หรือมีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ ให้ใช้น้ำยาสำหรับล้างจานเบรกโดยเฉพาะเท่านั้น มาเช็ดทำความสะอาด ซึ่งไม่ควรใช้น้ำยาหรือน้ำมันอื่น ๆ มาใช้ทำความสะอาด เพราะอาจทำให้จานเบรกมีความเสียหายได้ ควรใช้น้ำยาล้างจานเบรกโดยเฉพาะเท่านั้น 

4. อย่าละเลยสายอ่อนเบรก

หมั่นตรวจสอบสายอ่อนเบรกเป็นประจำและสม่ำเสมอ เพราะสายอ่อนเบรกก็เป็นส่วนที่สำคัญ ถ้าหากพบว่าสายอ่อนเบรก บิดคดจนผิดรูป หรือมีอาการบวม หรือปลอกหุ้มภายนอกสายอ่อนเบรกฉีกขาด ให้รีบเปลี่ยนสายอ่อนเบรกทันที เพราะมีความเสี่ยงที่สายอ่อนเบรกจะแตกได้ง่าย

5. อย่าลืมเปลี่ยนชุดซ่อมเบรก

หากรถยนต์มีการใช้งานอยู่เป็นประจำ ซึ่งเบรกที่ได้รับการใช้งานนั้น ควรได้รับการเปลี่ยนชุดซ่อมเบรก ไม่ว่าจะเป็นลูกยาง ลูกสูบเบรก แม่ปั๊มเบรก หรือยางกันฝุ่น ควรเปลี่ยน ทุก 2 ปี หรือถ้าหากรถยนต์มีการลุยน้ำ ให้รีบตรวจเช็กทันที เพราะเสี่ยงต่อการที่ลูกยางกันฝุ่น จะเก่าและหมดสภาพไปได้ จนไม่สามารถกันฝุ่นและกันน้ำได้ ซึ่งน้ำที่ซึมผ่านเข้าไปในแม่ปั๊มเบรกและกระบอกเบรก อาจทำให้ลูกสูบเบรกเกิดสนิมขึ้น

สรุป

เบรกถือเป็นส่วนสำคัญของรถ ที่ช่วยชะลอรถ หรือใช้ควบคุมให้รถหยุด ซึ่งการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้าหากรถยนต์เกิดอาการเบรกแข็ง อาจทำให้การควบคุมรถมีความยากขึ้น จนทำให้เกิดอันตรายได้ อาการเบรกแข็ง สามารถสังเกตได้จากขณะขับรถ และเหยียบเบรก ถ้าหากรถมีอาการเบรกแข็ง จะรู้สึกได้ว่า เบรกไม่ค่อยอยู่ เมื่อเหยียบเบรก หรือต้องออกแรงเหยียบเบรกมากกว่าปกติ ซึ่งอาการเบรกแข็ง เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และสามารถเกิดได้จากระบบเบรกโดยตรงหรือเกิดจากส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเบรก ควรเรียกช่างมืออาชีพมาซ่อมโดยด่วน หรือในกรณีที่รถยนต์มีประกัน ให้นำรถยนต์ไปเข้าศูนย์ทันที เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดในภายหลังได้

ที่ Autobacs มีบริการล้างระบบเบรก ที่จะช่วยให้แต่ละชิ้นส่วน มีความสะอาด รวมถึงก่อนล้างจะมีการตรวจเช็กสภาพของแต่ละชิ้นส่วนให้ด้วย เพื่อดูว่ามีอะไรชำรุดเสียหายหรือไม่ จะได้ทำการเปลี่ยนหรือซ่อม ก่อนที่จะเกิดปัญหาต่อระบบเบรกในภายหลัง