
อาการยางแท่นเครื่องเสื่อมสภาพเป็นอย่างไรเรามีคำตอบ
Post Date: 2 Aug 2024
ยางแท่นเครื่องเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนตอนเครื่องยนต์กำลังหมุน จึงควรสังเกตอาการของยางแท่นเครื่องอยู่เสมอ ก่อนที่จะเสื่อมจนทำให้อันตรายขณะขับขี่ได้ บทความนี้จะพาไปดูว่า ยางแท่นเครื่องคืออะไร มีวิธีสังเกตอาการยางแท่นเครื่องเสื่อมได้อย่างไร และดูแลรักษายางแท่นเครื่องอย่างไรให้ใช้ได้นาน ไปดูกัน!
ยางแท่นเครื่อง คืออะไร
ยางแท่นเครื่อง (Rubber Pedestal Machine) คืออุปกรณ์ส่วนหนึ่งภายในรถยนต์ ที่ทำหน้าที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ ขณะกำลังสตาร์ตเครื่องยนต์ การออกตัวรถ ทั้งเดินหน้า ถอยหลัง เข้าเกียร์ และเบรก เพราะในการออกตัว รถก็จะมีอาการโคลงไปมา ทำให้รถยนต์แต่ละรุ่นต้องมียางแท่นเครื่องเพื่อซับแรงสั่นสะเทือนขณะขับขี่ และแรงสั่นสะเทือนภายในห้องโดยสาร
รถยนต์แต่ละรุ่นจะมีลักษณะของยางแท่นเครื่องแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนมากจะมียางแท่นเครื่องทั้งหมด 4 ตัว โดยจะติดตั้งใกล้หม้อน้ำ 1 ตัว ผนังห้องเครื่องยนต์ด้านหน้า 1 ตัว เพื่อป้องกันการกระแทกของตัวรถ และติดตั้งซุ้มล้อหน้า 2 ข้าง และเสื้อเกียร์ เพื่อรองรับการเข้าโค้งทั้งซ้าย และขวานั่นเอง
ยางแท่นเครื่องมีกี่ประเภท
ในปัจจุบัน ยางแท่นเครื่องสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
ยางแท่นเครื่องแบบยางสังเคราะห์สีดำ เป็นยางแท่นเครื่องที่นิยมใช้กับรถยนต์มากที่สุด เนื่องจากมีราคาถูกกว่ายางแท่นเครื่องประเภทอื่นๆ
ยางแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิค เป็นยางแท่นเครื่องรูปทรงกระบอกแนวตั้ง ภายในบรรจุน้ำมันที่มีความหนืดสูง แต่หากใช้ไปนาน ๆ จนเกิดอาการยางแท่นเครื่องเสื่อม มีน้ำมันรั่วซึมออกมา ก็ไม่สามารถซ่อมได้ และต้องเปลี่ยนอย่างเดียว ทำให้ยางแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิคมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าประเภทยางสังเคราะห์
ยางแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิคที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ทำงานโดยใช้ระบบไฟฟ้าเป็นตัวควบคุมความยืดหยุ่น โดยภายในรถยนต์จะมียางแท่นเครื่องประเภทนี้อยู่บริเวณด้านหน้าเครื่องยนต์ ที่อยู่ใกล้กับหม้อน้ำเพียงตัวเดียว
วิธีสังเกตอาการยางแท่นเครื่องเสื่อม
ถึงแม้อายุการใช้งานของยางแท่นเครื่อง จะสามารถใช้งานได้ยาวนานหลายปี หรือหลายหมื่นกิโลเมตร แต่ระหว่างการใช้งานของยางแท่นเครื่อง ก็มักจะมีการสึกหรอ หรือเสื่อมสภาพเป็นเรื่องปกติ ซึ่งมาดูกันว่า อาการแบบไหนที่เรียกว่ายางแท่นเครื่องเสื่อม กับวิธีสังเกตง่าย ๆ ที่ผู้ใช้รถควรรู้
ตัวถังสั่นผิดปกติ
วิธีแรกที่สามารถสังเกตได้ว่า อาการยางแท่นเครื่องกำลังเสื่อมสภาพหรือไม่ คือ หากสตาร์ตรถยนต์แล้ว ตัวถังรถยนต์ มีอาการสั่นสะเทือนเท่า ๆ กับตัวรถยนต์ จนผู้ขับขี่รู้สึกได้ชัดเจน ก็บ่งบอกได้เลยว่า ตัวยางแท่นเครื่องรถยนต์กำลังเกิดปัญหา หรือกำลังเสื่อมสภาพนั่นเอง
รถกระตุกตอนเข้าเกียร์
วิธีสังเกตอาการของแท่นเครื่องยนต์เสื่อมสภาพ คือ การที่รถกระตุกขณะเปลี่ยนเกียร์ หรือเข้าเกียร์ รถกระชากแรงขณะออกตัว หรือการที่เครื่องยนต์รอบเดินเบาผิดปกติ อย่างการสตาร์ตเครื่องยนต์ไว้เฉย ๆ แต่รถมีอาการสั่นรุนแรงจนเห็นได้ชัด อาจเป็นอาการของยางแท่นเครื่องที่กำลังเสื่อมสภาพเช่นกัน
รถสั่นเมื่อจอดนิ่ง
ขณะที่จอดรถแล้วติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ พร้อมกับเปิดแอร์ไปด้วย แต่เจออาการตัวรถสั่นผิดปกติจนรู้สึกได้ และอาการสั่นของตัวรถหายไป เมื่อคอมแอร์ตัดการทำงาน ก็เป็นอาการบ่งบอกของยางแท่นเครื่องเสื่อมสภาพ ที่ยางแท่นเครื่องอาจจะขาด หรือเสียหาย รวมถึงการที่ค่อย ๆ ปล่อยให้รถไหลช้า ๆ แล้วค่อย ๆ แตะเบรก แล้วรถเกิดอาการสั่นจนผิดสังเกต นั่นก็เป็นหนึ่งในอาการของยางรองแท่นเครื่องเสื่อมด้วยเช่นกัน
การสั่นที่ผิดปกติ
อาการของยางรองแท่นเครื่องเสื่อมจากความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็น ยางรองฉีกขาด ยางรองเสื่อม ยางแท่นเครื่องทรุดตัว รวมถึงความเสียหายอื่น ๆ ก็ทำให้รถมีอาการสั่นผิดปกติได้เช่นกัน เนื่องจากประสิทธิภาพการลดแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ลดลง ก็จะส่งผลกระทบต่อการนั่งโดยสาร และการขับขี่ ทำให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ลดลงนั่นเอง
เครื่องยนต์เอียง
หากยางแท่นเครื่องเสื่อมสภาพ หรือพัง ก็จะส่งผลต่ออาการเอียงของรถอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ ด้วยตาเปล่า คือ เมื่อจอดรถบนพื้นราบ แล้วเครื่องของรถยนต์เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นทางซ้าย หรือทางขวา ซึ่งอาการเครื่องยนต์เอียง ก็จะส่งผลต่อการขับขี่ด้วย และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ควรรีบแก้ไขให้เร็วที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงของการใช้รถใช้ถนน
มีเสียงดังกระทบกันจากส่วนเครื่องยนต์
วิธีสุดท้ายของสังเกตอาการของยางแท่นเครื่องว่าเสื่อมสภาพหรือไม่ คือ สังเกตได้จากการออกตัวรถ ทั้งการเดินหน้า และถอยหลัง ซึ่งหากยางรองแท่นเครื่องอยู่ในสภาพดี ก็จะไร้เสียงจากการทำงานของเครื่องยนต์ และไร้เสียงรบกวนภายในห้องโดยสารขณะขับขี่ แต่ถ้าหากยางรองแท่นเครื่องเสื่อม ก็จะมีอาการเสียงดังภายในตัวรถ จากการกระทบ และการกระแทกของโลหะ จากการที่เครื่องยนต์ไปชนกับส่วนอื่น ๆ ภายในตัวรถ
เปลี่ยนยางแท่นเครื่องตอนไหนดี?
เนื่องจากอายุการใช้งานของยางแท่นเครื่องยนต์ จะมีอายุการใช้งานประมาณ 5-7 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร จากนั้นอาการยางแท่นเครื่องก็จะค่อย ๆ เสื่อมสภาพตามการใช้งาน จึงควรเปลี่ยนยางแท่นเครื่องทุก 5-7 ปี หรือเปลี่ยนยางแท่นเครื่องก่อนระยะ 100,000 กิโลเมตร ก็จะช่วยยืดอายุการใช้ของเครื่องยนต์ให้สามารถใช้งานได้นานขึ้น
การดูแลไม่ให้เกิดอาการยางแท่นเครื่องเสื่อมไว ทำได้อย่างไร
วิธีดูแลยางของแท่นเครื่อง เพื่อไม่ให้เกิดอาการยางของแท่นเครื่องเสื่อมสภาพไว ทำได้โดยการสตาร์ตรถเพื่อวอร์มเครื่องยนต์ก่อนออกตัวประมาณ 5-10 นาที และไม่ควรออกตัวแรง หรือออกตัวด้วยความเร็วสูงในทันที ในส่วนของการเข้าเกียร์ ก็ควรเข้าเกียร์ด้วยความระมัดระวัง เพื่อรักษาสภาพยางแท่นเกียร์ และที่สำคัญ ในการขับขี่ หากเจอพื้นผิวถนนขรุขระ ถนนเป็นหลุม เป็นบ่อ รวมถึงลูกระนาดต่าง ๆ ก็ควรชะลอความเร็วในการขับขี่ และรักษาความเร็วให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อให้ยางแท่นเครื่องเกิดการสะเทือนให้น้อยที่สุด เพียงเท่านี้ ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของยางแท่นเครื่อง ให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นแล้ว
สรุป
ยางแท่นเครื่อง ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยลดแรงกระแทก และแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ ขณะที่สตาร์ตรถ เข้าเกียร์ การออกตัวรถ รวมถึงการเบรก แต่หากใช้รถไปนาน ๆ แล้วมีอาการของยางแท่นเครื่องยนต์เสื่อม ก็จะทำให้การซับแรงสั่นสะเทือนขณะขับขี่ลดลง จนสั่นสะเทือนเข้าไปในห้องโดยสาร และท้ายที่สุดก็อาจทำให้ห้องเครื่องยนต์เกิดความเสียหายได้
ซึ่งเราสามารถสังเกตอาการยางแท่นเครื่องเสื่อมได้ เช่น อาการตัวถังของรถสั่นผิดปกติขณะขับขี่ อาการสั่นจากการที่สตาร์รถจอดทิ้งไว้ แล้วตัวรถมีอาการสั่นจนผิดปกติ อาการรถสั่นกระตุกตอนออกตัวรถ การเข้าเกียร์ หรือการค่อย ๆ แตะเบรก แล้วตัวรถสั่น หรือเครื่องยนต์มีเสียงดัง และวิธีง่าย ๆ ที่คนมีรถสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเอง คือการสังเกตว่ารถยนต์เอียงไปด้านใดด้านหนึ่งหรือไม่นั่นเอง
ที่สำคัญ ควรดูแล และเปลี่ยนยางแท่นเครื่องเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เพื่อยืดอายุการใช้งาน และป้องกันอุบัติเหตุขณะขับขี่บนท้องถนน และสามารถนำรถมาตรวจเช็กได้ที่ Autobacs เพราะที่นี่ ครบ เคลียร์ จบ กับทุกบริการเกี่ยวกับรถยนต์