
รถสตาร์ทไม่ติดเกิดได้จากสาเหตุไหนบ้าง
Post Date: 19 Feb 2025
รถสตาร์ทไม่ติด อาจเกิดจากฟิวส์สตาร์ทเสีย ไดสตาร์ทเสีย แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม ขั้วแบตไม่สะอาด มอเตอร์สตาร์ทมีปัญหา ปั๊มติ๊กเสียหาย น้ำมันรถอาจจะหมด อากาศที่เย็นเกินไป หรือการที่จอดรถทิ้งไว้นานเกินไป ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดได้ทั้งนั้น
หากรถสตาร์ทไม่ติด บางปัญหาก็สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง แต่บางปัญหา ก็จำเป็นต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบแทน เพื่อป้องกันอันตราย ทั้งต่อตัวผู้ขับขี่ และตัวรถยนต์ด้วย
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์รถสตาร์ทไม่ติด จึงควรหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อยู่เสมอ พกสายพ่วงแบตเตอรี่ไว้ในรถเสมอ อย่าขับรถเพลินจนน้ำมันหมดถัง และไม่ควรจอดรถทิ้งไว้นานเกินไป
หลายๆ คนอาจมองว่าปัญหารถเสียสตาร์ทไม่ติดเป็นปัญหาที่ดูเล็กน้อย เพราะสามารถเกิดขึ้นได้ง่าย แต่สำหรับบางสาเหตุ อาจเป็นปัญหาที่ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยก็ได้ เพราะอาจจะกลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาชวนปวดหัว ถึงแม้ผู้ขับขี่ทุกคนจะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่ก็ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ เพราะปัญหารถสตาร์ทไม่ติดสามารถเกิดขึ้นได้กับรถยนต์ทุกคัน ทุกยี่ห้อ และเกิดมาจากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน บ้างก็เป็นปัญหาเล็กๆ ที่ผู้ขับขี่อาจจะคาดไม่ถึง เพราะฉะนั้นแล้ว หากไม่อยากกังวลใจ ก็มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุที่รถสตาร์ทไม่ติด พร้อมแนวทางแก้ไขที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้วนกลับไปเจอปัญหานี้อีก หรือเพื่อป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบอื่นๆ ที่ร้ายแรงต่อรถยนต์ และชีวิตได้
ปัญหารถสตาร์ทไม่ติด คืออะไร
ปัญหารถสตาร์ทไม่ติด สังเกตได้เมื่อสตาร์ทรถแล้วเครื่องยังเงียบ หรือบางครั้งเมื่อสตาร์ทแล้วรู้สึกว่าเครื่องมีเสียงดังแปลกๆ อาจจะลองดูที่หน้าปัดร่วมด้วยว่ามีไฟขึ้นหรือไม่ หากไม่มีอาจจะเกิดขึ้นมาจากการที่แบตเตอรี่เสื่อมสภาพหลังจากใช้งานมานาน หรือเกิดจากไดมอเตอร์สตาร์ทเสื่อมสภาพ รวมถึงเมื่อสตาร์ทรถแล้วรู้สึกว่าเครื่องหมุนเร็วแต่เครื่องไม่ติด อาจเกิดจากแบตเตอรี่หมด หรือเครื่องยนต์มีปัญหานั่นเอง
รวมสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด มีอะไรบ้าง
สาเหตุรถสตาร์ทไม่ติดอาจจะเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบต่างๆ ในเครื่องยนต์อาจจะมีปัญหา หรืออาจจะลามไปจนถึงปัจจัยภายนอก ดังนี้
1. ฟิวส์สตาร์ทเสีย
รถสตาร์ทไม่ติดเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่มักจะพบบ่อย ก็คงหนีไม่พ้นการสตาร์ทรถผิดวิธี เช่น รถยนต์ที่สตาร์ทด้วยกุญแจ หลายๆ คนมักชอบบิดกุญแจเพื่อสตาร์ทรถรอบเดียว แน่นอนว่าการสตาร์ทรถลักษณะนี้เสี่ยงที่จะทำให้ฟิวส์สตาร์ทขาด และเสียได้ง่าย และเมื่อฟิวส์สตาร์ทเสีย จึงกลายมาเป็นปัญหาที่ส่งผลให้รถไม่สามารถใช้งานได้นั่นเอง
วิธีแก้ไขปัญหาฟิวส์สตาร์ทเสีย
วิธีแก้ปัญหารถสตาร์ทไม่ติดหากฟิวส์สตาร์ทรถเสีย จะต้องทำการเปลี่ยนฟิวส์ใหม่อย่างเดียว และถ้าไม่อยากให้ฟิวส์สตาร์ทรถเสียก็มีวิธีง่ายๆ คือการบิดกุญแจครั้งที่ 1 ไปที่ AC ก่อน บิดต่อไปที่คำว่า ON และ Start เพียงเท่านี้ก็จะช่วยยืดอายุการใช้รถได้ดี
2. ไดสตาร์ทเสื่อมสภาพ
ไดสตาร์ทเสื่อมสภาพ คือสิ่งที่เป็นสาเหตุรถสตาร์ทไม่ติด ก็เพราะว่าไม่สามารถที่จะจ่ายไฟไปสู่ส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ได้
อาการค่อนข้างคล้ายกับแบตเตอรี่เสื่อม แต่ถ้าเครื่องยนต์ติดอยู่ มันจะดับเองในขณะที่ใช้รอบต่ำ หรือหากรถกำลังเคลื่อนที่อยู่ อาจดับไปกลางอากาศเลยก็มี
วิธีแก้ไขปัญหาไดชาร์จเสื่อมสภาพ
วิธีแก้ปัญหารถสตาร์ทไม่ติดเมื่อพบว่าไดสตาร์ทเสื่อมสภาพ ทางออกที่ดีที่สุดคือจะต้องรีบนำส่งศูนย์ซ่อมรถที่ใกล้ที่สุดอย่างเร่งด่วน เพื่อตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ให้เรียบร้อย
3. แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม
สาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดที่พบได้บ่อยๆ ก็คงหนีไม่พ้นการที่แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม เพราะแบตเตอรี่รถยนต์คือแหล่งปล่อยพลังงานให้แก่รถยนต์ เพื่อที่รถจะสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ สาเหตุที่แบตเตอรี่เสื่อมอาจจะเกิดจากอายุการใช้งาน เพราะแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปีขึ้นไปมักจะมีกำลังไฟไม่พอแก่การจ่ายพลังงาน จึงทำให้สตาร์ทรถไม่ติดนั่นเอง
วิธีแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่รถเสื่อม
การแก้ปัญหาแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด สามารถแก้ได้ง่ายๆ ด้วยการนำแบตเตอรี่สำรองมาพ่วงเติมพลังให้แก่แบตเตอรี่ หรือพ่วงแบตเตอรี่จากรถคันอื่นๆ เพราะฉะนั้นแล้ว ทุกการเดินทางอย่าลืมพก สายพ่วงแบตเตอรี่เอาไว้ด้วย
4. ขั้วแบตเตอรี่ไม่สะอาด
ถ้าหากขั้วแบตเตอรี่ไม่สะอาดก็มีโอกาสทำให้รถสตาร์ทไม่ติดได้ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะขั้วแบตเตอรี่คือส่วนที่ต่อพ่วงเชื่อมต่อระหว่างภายนอก และภายในแบตเตอรี่ หากมีคราบสกปรกก็จะส่งผลให้กระแสไฟไม่สามารถส่งไปยังส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ได้
วิธีแก้ไขปัญหาขั้วแบตเตอรี่ไม่สะอาด
วิธีแก้ปัญหาขั้วแบตเตอรี่ไม่สะอาดที่เป็นสาเหตุให้รถสตาร์ทไม่ติด สามารถทำได้ด้วยการนำน้ำร้อนไปราดบริเวณขั้วแบตเตอรี่ จากนั้นให้นำแปรงสีฟันมาขัดทำความสะอาดให้ทั่วแบตเตอรี่ และแคมป์รัดแบตเตอรี่ เมื่อทำความสะอาดแล้วก็ทำการเช็กสายไฟ และขันให้แน่น ทั้งนี้ ควรต้องเปลี่ยนสายไฟด้วย เพื่อที่จะป้องกันปัญหารถสตาร์ทไม่ติดนั่นเอง
5. มอเตอร์สตาร์ทมีปัญหา
มอเตอร์สตาร์ทเสียคือสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด สามารถสังเกตได้จากการสตาร์ทรถแล้วเกิดเสียง “แชะๆ” โดยมีสาเหตุที่เกิดจากการที่สายไฟชำรุด หรือฟิวส์ภายในมอเตอร์ขาด จึงส่งผลให้มอเตอร์สตาร์ทเสื่อมจนรถสตาร์ทไม่ติด
วิธีแก้ไขปัญหามอเตอร์สตาร์ทเสีย
วิธีการแก้ปัญหาไม่จำเป็นที่จะต้องทำอะไรเลย แต่ต้องรีบนำเข้าซ่อมที่ศูนย์ดูแลรถใกล้เคียงให้เร่งด่วนที่สุด เพื่อตรวจเช็กความเรียบร้อย และเพื่อความปลอดภัยของรถนั่นเอง
6. ปั๊มติ๊กพัง
ปั๊มติ๊กคืออุปกรณ์ที่เข้ามาเป็นตัวช่วยสำหรับการดูดน้ำมันจากตัวถัง เพื่อส่งตรงไปยังเครื่องยนต์ เรียกง่ายๆ ว่า เป็นตัวช่วยการกระตุ้นการเกิดพลังงาน เพราะฉะนั้นแล้ว หากปั๊มติ๊กพัง ก็จะไม่มีตัวช่วยดูดน้ำมัน จึงส่งผลให้รถสตาร์ทไม่ติดได้
วิธีแก้ไขปัญหาปั๊มติ๊กพัง
ควรหลีกเลี่ยงการขับรถขณะที่มีน้ำมันเหลือแค่เพียงนิดเดียว และจะต้องหลีกเลี่ยงไฟสัญญาณเตือนการเติมน้ำมัน เนื่องจากจะส่งผลให้ปั๊มติ๊กเสียได้ เพราะอาจมีการดึงอากาศเข้ามาแทนที่น้ำมันนั่นเอง
7. น้ำมันรถหมด
สาเหตุรถสตาร์ทไม่ติดที่คาดไม่ถึง แต่เกิดขึ้นบ่อย คือการที่รถน้ำมันหมด เพราะปั๊มติ๊กไม่สามารถที่จะดึงดูดน้ำมันไปสู่การทำงานของเครื่องยนต์ได้ จึงกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด
วิธีแก้ไขปัญหารถเมื่อน้ำมันรถหมด
โดยการแก้ไขปัญหา เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะตามมาได้ คือการเติมน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ เช็กน้ำมันอยู่เสมอ ไม่ปล่อยให้น้ำมันหมดถังอยู่บ่อยๆ
8. สภาพอากาศที่เย็นเกินไป
การที่สภาพอากาศเย็นเกินไปอาจส่งผลให้รถสตาร์ทไม่ติดได้เช่นเดียวกัน เพราะเมื่ออากาศเย็นจะส่งผลให้น้ำมันเครื่องเหนียว และส่งผลให้แบตเตอรี่คลายประจุรวดเร็วจนเกินไป ทำให้เครื่องยนต์จะต้องใช้แรงหมุนที่มากกว่าปกติ จนส่งผลให้รถสตาร์ทไม่ติดนั่นเอง
วิธีแก้ไขปัญหารถเมื่อสภาพอากาศเย็นเกินไป
การแก้ปัญหาสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการรอให้เครื่องอุ่นขึ้นอีกสักนิด หรือหลีกเลี่ยงการจอดรถในสภาพอากาศที่เย็นจนเกินไป
9. จอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน
การจอดรถทิ้งไว้นานส่งผลให้รถสตาร์ทไม่ติด เพราะว่าการจอดรถไว้นานจะทำให้แบตเตอรี่หมด หรืออาจจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้ เพราะฉะนั้น จึงกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดนั่นเอง
วิธีแก้ไขปัญหารถเมื่อจอดทิ้งไว้นานเกินไป
วิธีแก้ปัญหารถสตาร์ทไม่ติด หากจำเป็นที่จะต้องจอดรถทิ้งไว้ก็คือ ควรถอดสายพ่วงแบตเตอรี่ออก หรือหมั่นสตาร์ทรถอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 10 นาที เพื่อป้องกันกรณีที่แบตเตอรี่เสื่อมได้
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดปัญหารถสตาร์ทไม่ติด
เมื่อได้รู้วิธีการแก้ไขเมื่อเกิดปัญหารถสตาร์ทจากสาเหตุต่างๆ แล้ว แต่การป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์รถสตาร์ทไม่ติดก็ย่อมส่งผลดีต่อผู้ขับขี่มากกว่า เพราะฉะนั้น ไม่ควรพลาดที่จะตามมาดูวิธีการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหารถสตาร์ทไม่ติดด้วยวิธีดังต่อไปนี้
ตรวจเช็กและดูแลรถเป็นประจำ
การดูแลรถก็เหมือนการดูแลตัวเอง ดังนั้น หากไม่อยากให้เกิดปัญหารถสตาร์ทไม่ติด ก็มีวิธีการป้องกันง่ายๆ ด้วยการตรวจเช็กสภาพรถเบื้องต้นอย่างสม่ำเสมอ อาจจะเช็กด้วยตัวเอง หรืออาจนำไปเช็กกับผู้ที่มีความชำนาญ เพื่อทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง บำรุงรักษาอุปกรณ์ต่างๆ เปลี่ยนอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นตามอายุการใช้งาน ให้ระบบต่างๆ ภายในรถสามารถใช้งานได้อย่างปกติ เพื่อป้องกันเหตุการณ์รถสตาร์ทไม่ติด
มีสายพ่วงแบตเตอรี่ติดรถไว้
ไอเทมเด็ดที่ต้องพกติดรถไว้เสมอเพื่อความอุ่นใจ ก็คือสายพ่วงแบตเตอรี่ เนื่องจากสาเหตุที่รถสตาร์ทไม่ติดอาจจะเกิดขึ้นจากสาเหตุไม่คาดฝัน อย่างแบตเตอรี่หมดระหว่างทางได้ ดังนั้น หากมีสายพ่วงแบตเตอรี่ อย่างน้อยก็สามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหารถสตาร์ทไม่ติดจนขับต่อไม่ได้ เพราะอย่างน้อยก็ได้พ่วงแบตเตอรี่กับรถยนต์คันอื่นๆ เพื่อชาร์จแบตให้สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ และขับต่อไปได้
ระวังอย่าให้น้ำมันหมดถัง
น้ำมันเปรียบดั่งหัวใจสำคัญที่ช่วยให้รถขับเคลื่อนไปได้ เพราะฉะนั้น หากต้องการเดินทางไกลไปไหน ควรเตรียมน้ำมันให้พร้อมเสมอ ไม่ควรปล่อยให้น้ำมันหมดถัง เพราะถ้าหากน้ำมันไม่เพียงพอ นอกจากจะส่งผลให้ระบบการทำงานของเครื่องยนต์เสื่อมสภาพแล้ว ก็ยังส่งผลให้เกิดปัญหารถสตาร์ทไม่ติดอีกด้วย ถ้าไม่อยากพบเจอกับเหตุการณ์รถสตาร์ทไม่ติดเพราะน้ำมันหมด ก็ควรเติมน้ำมันให้เพียงพอต่อการใช้งานอยู่เสมอ
ไม่จอดรถทิ้งไว้นาน
การจอดรถทิ้งไว้นานก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด หากบ้านไหนที่มีรถหลายคัน แนะนำว่าให้ควรสลับใช้รถ หรืออาจจะสตาร์ทรถบ้าง ไม่ควรจอดทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานๆ เพราะอาจทำให้เกิดปัญหารถสตาร์ทไม่ติดได้
สรุป
ปัญหารถสตาร์ทไม่ติดมักจะพบได้บ่อย และมีโอกาสสูงมากที่จะเกิดขึ้นกับรถทุกคัน โดยสาเหตุที่รถสตาร์ทไม่ติดอาจจะเกิดมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ฟิวส์สตาร์ทเสีย แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม มอเตอร์สตาร์ทมีปัญหา น้ำมันหมด และสาเหตุอื่นๆ อีกมากมาย เพราะฉะนั้นแล้ว ควรแก้ไขให้ตรงจุด และควรศึกษาวิธีป้องกันไว้เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหารถสตาร์ทไม่ติด
แต่ถึงอย่างไร แม้จะมีการป้องกันเพียงใด แต่ในบางครั้งปัญหารถสตาร์ทไม่ติดก็มักจะเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะฉะนั้น หากใครพบเจอกับปัญหารถสตาร์ทไม่ติด ขอแนะนำให้เข้าพบผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ เพื่อหาสาเหตุที่ตรงจุดได้ที่ AUTOBACS เพราะที่นี่เป็นศูนย์บริการด้านรถยนต์ที่ให้บริการครบวงจร รับติดตั้งศูนย์ถ่วงล้อ เติมลมไนโตรเจน ล้างแอร์รถยนต์ อบโอโซนรถ ล้างเบรกรถยนต์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง พร้อมกับเช็กสภาพรถ 25 รายการฟรี !! รับรองว่าอุ่นใจตลอดการเดินทางแน่นอน