สายพานรถยนต์สำคัญยังไง วิธีแก้ไขเมื่อสายพานดัง

สายพานรถยนต์ ถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญของอะไหล่รถยนต์ ซึ่งจำเป็นต้องติดตั้งอย่างดี และมีการบำรุงเพื่อป้องกันการชำรุด เพื่อให้รถยนต์ขับเคลื่อนไปได้อย่างปลอดภัย ไม่มีปัญหาระหว่างการเดินทาง บทความนี้จะพาไปดูว่าสายพานรถสำคัญอย่างไร พร้อมวิธีแก้ไขเมื่อรถสายพานดัง หรือรถสายพานขาด

สายพานรถยนต์สำคัญอย่างไร

สายพานรถยนต์มีหน้าที่ช่วยในการขับเคลื่อนของระบบภายในรถยนต์ ซึ่งสายพานจะมีสองอย่างด้วยกัน คือ สายพานไทม์มิง และสายพานหน้าเครื่อง ซึ่งทั้งสองอย่างจะมีหน้าที่แตกต่างกัน หากเจ้าของรถยนต์ไม่ดูแลบำรุงรักษาให้ดี อาจเกิดปัญหารถสายพานดังหรือรถสายพานขาดได้ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้แก่เครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานขัดข้อง และที่ร้ายแรงที่สุดคือ อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันได้ภายในพริบตา ดังนั้นคุณจึงต้องให้ความสำคัญและใส่ใจกับสายพานรถยนต์อยู่เสมอเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตัวคุณเอง

สายพานรถยนต์ มีอะไรบ้าง

ดังที่กล่าวไปแล้วว่าสายพานรถยนต์มีสองอย่างด้วยกัน คือ สายพานไทม์มิง และสายพานหน้าเครื่อง ซึ่งทำหน้าที่แตกต่างกัน โดย AUTOBACS จะพาไปดูรายละเอียดว่า สายพานทั้งสองตัวนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร

สายพานไทม์มิง 

สายพานไทม์มิง หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสายพานราวลิ้นก็ได้ คือสายพานรถที่ทำหน้าที่ส่งกำลังเพลาข้อเหวี่ยงและเพลาลูกเบี้ยวในเครื่องยนต์ให้หมุนไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้วาล์วของเครื่องยนต์เปิดและปิดในเวลาที่ถูกต้องระหว่างจังหวะไอดีและไอเสียของกระบอกสูบแต่ละอัน และป้องกันไม่ให้ลูกสูบและวาล์วชนกัน หากสายพานไทม์มิงชำรุดหรือแตกหัก อาจส่งผลให้ลูกสูบและวาล์วชนกัน ทำให้เครื่องยนต์เสียหายร้ายแรงได้

สายพานหน้าเครื่อง

สายพานหน้าเครื่อง คือสายพานรถที่ทำหน้าที่ส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปสู่อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์ให้ทำงาน เช่น ไดชาร์จ ปั๊มพวงมาลัยเพาเวอร์ คอมเพรสเซอร์แอร์ เป็นต้น ซึ่งหากรถสายพานขาด เสียหาย ชำรุด หรือสายหย่อน อาจส่งผลให้ระบบเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติหรือหยุดทำงานไปเลยก็ได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อการขับขี่

สายพานรถยนต์ ควรเปลี่ยนตอนไหน

สายพานรถยนต์ก็มีอายุการใช้งานเหมือนกับอะไหล่และชิ้นส่วนรถยนต์อื่น ๆ ซึ่งโดยปกติแล้วควรเปลี่ยนสายพานรถทุก 4-5 ปี หรือระยะทางที่ 60,000-100,000 กิโลเมตร เพื่อรักษาประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ และป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดกับเครื่องยนต์ได้ แต่หากรถสายพานดัง รถสายพานขาด สายพานแตกลายงา หรือมีเส้นด้ายหลุดออกมา ก็เป็นสัญญาณได้ว่าควรเปลี่ยนสายพานได้แล้วเช่นกัน

สัญญาณเตือน ที่บอกว่าสายพานมีปัญหา!

ก่อนที่สายพานรถยนต์จะเสื่อมสภาพ ใช้งานไม่ได้ หรือมีปัญหา มักมีสัญญาณเตือนที่บ่งบอกอย่างชัดเจนอยู่ ซึ่งแบ่งตามประเภทสายพาน ดังนี้

สายพานไทม์มื่งมีปัญหา

• สายพานแตกลายงา

• รถสายพานขาด

• รถสายพานดัง

• เครื่องยนต์สั่น

• เครื่องยนต์กำลังตก

• เครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงมาก

• รถสตาร์ตไม่ติด หรือสตาร์ตติดยาก

• มีไฟเครื่องยนต์โชว์ขึ้นบนหน้าจอแสดงผลรถยนต์

สายพานหน้าเครื่องมีปัญหา

• สายพานแตกลายงา

• สายพานหย่อน

• รถสายพานขาด

• รถสายพานดัง

• เครื่องยนต์กำลังตก

• เครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงมาก

• รถสตาร์ตไม่ติด หรือสตาร์ตติดยาก

• มีไฟเครื่องยนต์โชว์ขึ้นบนหน้าจอแสดงผลรถยนต์

สายพานรถยนต์ดัง เกิดจากอะไร

รถสายพานดังอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น สายพานสึกหรอหรือเสื่อมสภาพ สายพานหย่อนหรือตึงจนเกินไป มีเศษขยะสะสมบนผิวของสายพาน รอกไม่ตรงทำให้สายพานวิ่งไม่สม่ำเสมอ สภาพอากาศที่ร้อนจัดหรือเย็นจัดสามารถส่งผลต่อความยืดหยุ่นของสายพานได้เช่นกัน

วิธีแก้ไขเบื้องต้นสำหรับปัญหาสายพานรถดัง ได้แก่ การอัดจาระบีเข้าไปในส่วนของมู่เลย์ เพื่อให้ระบบเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น หรืออาจใช้สบู่ก้อนแทนก็ได้ โดยการสตาร์ตเครื่องยนต์และนำสบู่ก้อนไปถูกับสายพาน แต่ทำได้เฉพาะรุ่นรถที่สามารถเห็นสายพานได้อย่างชัดเจนเท่านั้น หากสายพานหย่อนหรือตึงเกินไป ก็ให้ตั้งสายพานใหม่ หรืออาจจะเพิ่มประสิทธิภาพของสายพานด้วยการใช้สเปรย์ไล่ความชื้นด้วยก็ได้เช่นกัน

สายพานรถยนต์ขาด เกิดจากอะไร

รถสายพานขาดอาจเกิดจากการใช้งานรถที่ไม่เหมาะสม อย่างการขับรถกระชากบ่อย ๆ โดยเฉพาะตอนออกตัว เรามักจะเร่งเครื่องเร็ว ๆ ทำให้สายพานเกิดความร้อนสูง และอาจฉีกขาดได้ในที่สุด อีกสาเหตุหนึ่งก็อาจจะมาจากการปรับแต่งชุดชาม เช่น การเปลี่ยนขนาดเม็ด การขูดชาม ทำให้สายพานทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้สายพานขยายหรือมีรอบการทำงานที่มากขึ้นได้ และเกิดปัญหาสายพานฉีกขาดได้เช่นกัน

วิธีแก้ปัญหาสายพานรถยนต์ขาดก็มีทางเดียว คือ ต้องรีบเลี้ยวเข้าอู่ซ่อมรถ เพื่อเปลี่ยนสายพานแบบด่วน ๆ แต่วิธีป้องกันนั้นมีอยู่หลายทางด้วยกัน เช่น เปลี่ยนสายพานตามระยะทางหรืออายุปีที่กำหนด ตั้งระยะของสายพานไม่ให้ตึงหรือหย่อนจนเกินไป ขับขี่รถยนต์อย่างเหมาะสม และหมั่นตรวจเช็กสายพานอยู่เสมอ

ดูแลสายพานรถยนต์อย่างไรให้ใช้ได้นาน

อย่ารอให้รถสายพานขาดหรือรถสายพานดัง แต่เราควรดูแลใส่ใจและหาทางป้องกันปัญหาเกี่ยวกับสายพานรถยนต์ก่อนล่วงหน้าอยู่เสมอ โดยทาง AUTOBACS จะมาแนะนำวิธีการดูแลสายพานให้ใช้งานได้นาน ดังนี้

เช็กความตึง ความหย่อนของสายพาน

ตรวจสอบสายพานรถยนต์อยู่เสมอว่าหย่อนหรือตึงเกิดไปหรือไม่ โดยกดเบา ๆ ไปที่สายพาน หรือดูที่ระยะห่างระหว่างสายพานกับลูกปล้องว่า มีความห่างและความตึงเท่ากันหรือไม่ หากความตึงความหย่อนไม่เหมาะสม ให้ทำการตั้งสายพานใหม่

เปลี่ยนสายพาน

หากพบว่ารถสายพานขาด มีรอยแตกลายงา รอยแตกร้าว ชำรุด หรือเสียหาย มีเส้นด้ายหลุดลุ่ยออกมา ให้เปลี่ยนสายพานใหม่ทันที และอย่าลืมเปลี่ยนสายพานตามระยะกิโลเมตร และอายุการใช้งานที่เหมาะสม

ตรวจสอบลูกปืน

หมั่นตรวจสอบลูกปืนในจุดต่าง ๆ ว่ามีการชำรุด เสียหาย หรือลูกปืนมีการแตกร้าวหรือไม่ ในส่วนของไดชาร์จ ปั๊มเพาเวอร์ รอกดันสายพานปั๊มน้ำ เพราะหากลูกปืนเสียหายหรือแตก อาจเป็นสาเหตุทำให้รถสายพานดังได้

เปลี่ยนสายพานรถยนต์ใหม่ ต้องดูอะไรบ้าง

ก่อนที่จะตัดสินใจเปลี่ยนสายพานรถยนต์ใหม่นั้น มีปัจจัยต่าง ๆ ที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้สายพานที่เหมาะสม มีคุณภาพ และตรงสเปกกับรถยนต์ ซึ่งมีข้อควรพิจารณา ดังนี้

• ประเภทของสายพานว่า เป็นสายพานหน้าเครื่อง หรือสายพานไทม์มิง

• เบอร์ของสายพานว่า ตรงกับสายพานตัวเก่าหรือไม่ เพราะหากไม่ตรงจะใช้ด้วยกันไม่ได้

• เลือกสายพานที่มีความกว้าง จำนวนฟัน ระยะพิต และวัสดุ ที่ตรงกับสายพานจากผู้ผลิตรถยนต์

• เลือกสายพานจากผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีชื่อเสียง และมีการรับประกัน

สรุป

สายพานรถยนต์มีความสำคัญอย่างมาก เพราะช่วยในการขับเคลื่อนของรถยนต์ ป้องกันความเสียหายของตัวเครื่อง ทำให้รถยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้ารถสายพานดังหรือรถสายพานขาดอาจมีสาเหตุมาจากสายพานตึงหรือหย่อนจนเกินไป ต้องปรับสายพานใหม่ หรืออาจมีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่บริเวณผิวสายพาน ลูกปืนแตก ก็ต้องตรวจเช็กสายพานเบื้องต้นก่อนพาเข้าอู่ซ่อมรถ

หากไม่รู้ว่าจะใช้บริการที่ไหนดี ขอแนะนำ Autobacs Thailand มีบริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนแบตเตอรี่ ทำช่วงล่าง ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ เปลี่ยนยาง อบโอโซนรถยนต์ และบริการอื่น ๆ แบบครบวงจร พร้อมช่างผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำปรึกษา และคอยให้บริการอย่างใส่ใจ มาที่นี่ ครบ-เคลียร์-จบ ทุกเรื่องรถที่คุณรัก