
วิธีสังเกตอาการไดชาร์จเสีย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
Post Date: 2 Aug 2024
อะไหล่รถยนต์ส่วนต่าง ๆ ถือเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งที่ทำให้รถยนต์ขับเคลื่อนไปได้ และทำให้ระบบต่าง ๆ สามารถทำงานได้อย่างปกติ ไดชาร์จเองก็เป็นส่วนสำคัญของรถยนต์ เพราะมีหน้าที่จ่ายไฟไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถยนต์ แล้วถ้าไดชาร์จเสียอาการจะเป็นอย่างไร ไดชาร์จเสียเกิดจากอะไร บทความนี้มีคำตอบ!
ไดชาร์จ คืออะไร
ไดชาร์จ คือ อุปกรณ์ที่สร้างกระแสไฟฟ้าในรถยนต์เพื่อชาร์จแบตเตอรี่และให้พลังงานไฟฟ้าสำหรับระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ในรถยนต์ เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้รถยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลาที่มีการเคลื่อนที่ นอกจากนั้นยังช่วยรักษาและควบคุมแรงดันไฟฟ้าให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์ ไดชาร์มีความสำคัญต่อระบบในรถยนต์ ช่วยให้รถยนต์สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ชะลออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ และช่วยรักษาความเสถียรของระบบไฟฟ้า
อาการไดชาร์จเสีย เกิดจากอะไร และสังเกตได้อย่างไร
อาการไดชาร์จเสียเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งโดยปกติไดชาร์จจะไม่เสียง่าย ๆ เนื่องจากมีอายุการใช้งานประมาณ 7 ปี แต่หากไดชาร์จเกิดเสียขึ้นมาจะมีอาการดังต่อไปนี้
รถสตาร์ตติดยาก
หากไดชาร์จเสียรถจะมีอาการสตาร์ตติดยาก เนื่องจากไดชาร์จเป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้าของรถยนต์ หากไดชาร์จเสียก็จะไม่สามารถจ่ายไฟไปยังแบตเตอรี่ได้ ทำให้ไม่มีกำลังไฟในการสตาร์ตรถ จึงส่งผลให้รถสตาร์ตติดยากหรืออาจสตาร์ตไม่ติดเลยก็ได้
แบตเตอรี่หมด
อีกหนึ่งอาการของไดชาร์จเสียคือแบตเตอรี่หมดไว เพราะเมื่อไดชาร์จเสียแบตเตอรี่จะรับไฟฟ้าได้น้อยลงกว่าปกติ ทำให้แบตเตอรี่หมดไว ซึ่งมีอาการคล้ายกับแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ แต่หากคุณเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่แล้วยังหมดไวอีก อาจเป็นไปได้ว่าไดชาร์จรถอาจจะเสีย ต้องนำรถเข้าไปตรวจหาสาเหตุที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถยนต์
อุปกรณ์เสริมภายในรถทำงานช้าลง
หากอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์ของคุณทำงานช้าลงหรือเกิดขัดข้อง ติด ๆ ดับ ๆ เช่น ไฟหน้าและไฟท้ายสว่างน้อยลง ติดบ้างไม่ติดบ้าง เครื่องเสียงขัดข้อง แอร์ไม่ติด อาจเป็นไปได้ว่าแบตเตอรี่หมดหรือไม่ก็เป็นอาการของไดชาร์จเสีย ต้องนำรถไปตรวจเช็กเช่นกัน
มีเสียงใต้ท้องรถ
หากคุณได้ยินเสียงดังแปลก ๆ จากใต้ท้องรถยนต์ หรือที่เรียกกันว่าเสียงหอน อาจเป็นไปได้ว่าเกิดจากอาการไดชาร์จเสีย ซึ่งอาจเกิดมาจากสายพานหมุนไม่ตรงแนวหรือไปเสียดสีกับด้านข้างรอกของไดชาร์จ ทำให้เกิดเสียงหอนดังขึ้นจากใต้ท้องรถ หากพบอาการเช่นนี้ขอให้คุณรีบนำเราเข้าศูนย์ซ่อมรถยนต์ด่วนเลย
ระบบไฟสว่างมากไปหรือน้อยไป
หนึ่งในอาการของไดชาร์จเสีย ขัดข้อง หรือเสื่อมสภาพ ก็คือไฟรถยนต์อาจส่องสว่างมากไปหรือน้อยไป หรืออาจมีไฟกะพริบ อาจเนื่องมาจากการจ่ายแรงดันไฟฟ้าไม่คงที่ เพราะไดชาร์จเสียเป็นเหตุนั่นเอง จึงควรนำเราเข้าไปให้ช่างที่ศูนย์บริการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และทำการซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่ตามอาการ
มีกลิ่นเหม็นไหม้
ไดชาร์จเสียอาจมีอาการได้กลิ่นเหม็นไหม้ ซึ่งอาจเกิดจากยางรถยนต์ไหม้หรือสายไฟไหม้ ซึ่งหากเป็นอย่างหลังก็ควรนำรถเข้าศูนย์โดยเร็วที่สุด เพราะอาจเกิดจากการที่ไดชาร์จทำงานหนักมากกว่าปกติ ทำให้เกิดความร้อนสูงจนสายไฟชำรุด เสียหาย ไหม้ หรือขาดได้
ไฟรูปแบตเตอรี่ขึ้นบนหน้าปัดรถ
หากมีไฟโชว์แจ้งเตือนรูปแบตเตอรี่ขึ้นบนหน้าปัดรถยนต์ อาจเกิดมาจากความผิดปกติของระบบภายใน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นอาการของไดชาร์จเสีย แต่อาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่น ๆ ด้วย เช่น แบตเตอรี่หมด แบตเตอรี่เสื่อม ฟิวส์ขาด สายไฟชำรุดเสียหาย หรืออาจเกิดจากสายไฟหลวมก็ได้เช่นกัน
หากไดชาร์จเสียระหว่างขับรถ ควรทำอย่างไร
คุณอาจสงสัยว่าหากไดชาร์จเสียขับรถได้ไหม ซึ่งในความเป็นจริงไม่ควรจะขับต่อ แต่ส่วนใหญ่มักมีความจำเป็นที่จะต้องขับเพื่อนำรถเข้าไปซ่อมที่อู่หรือศูนย์บริการ ซึ่งทาง AUTOBACS มีข้อควรปฏิบัติมาแนะนำ ดังนี้
ปิดระบบไฟที่ไม่จำเป็นทั้งหมด
อันดับแรกคือต้องปิดระบบไฟที่ไม่จำเป็นทั้งหมด เช่น แอร์ เครื่องเสียง วิทยุ เป็นต้น เนื่องมาจากอาการไดชาร์จเสียจะทำให้แหล่งกำเนิดไฟฟ้าไม่ทำงาน ซึ่งไฟทั้งหมดจะมาจากเพียงแบตเตอรี่ที่เก็บสำรองไฟอยู่เท่านั้น จึงต้องปิดระบบไฟอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นทั้งหมด เพื่อประหยัดกระแสไฟฟ้าไว้นั่นเอง
นำรถไปในที่ปลอดภัย
หลังจากปิดระบบไฟต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นทั้งหมดแล้ว ให้นำรถเข้าสู่ที่ปลอดภัย โดยการชะลอรถชิดซ้ายเข้าข้างทาง เพื่อจอดรอรถลาก หรือขับรถยนต์เข้าสู่อู่ซ่อมรถหรือศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุดต่อไป
นำรถเข้าอู่
หากแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณใช้งานมาไม่เกิน 6 เดือน และศูนย์ซ่อมรถยนต์หรืออู่ที่ใกล้ที่สุดอยู่ไม่เกิน 10 กิโลเมตร ให้คุณประคองรถเข้าอู่เพื่อทำการเปลี่ยนไดชาร์จตัวใหม่ได้เลย
ไดชาร์จ VS ไดสตาร์ต
ไดชาร์จ คืออุปกรณ์ที่เติมพลังงานในแบตเตอรี่รถยนต์ มีหน้าที่จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่ คืนระดับการชาร์จหลังจากที่แบตเตอรี่หมดลง เนื่องจากการหมุนของเครื่องยนต์และการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ส่วนไดสตาร์ต คือ มอเตอร์ที่เริ่มการหมุนของเครื่องยนต์เมื่อคุณบิดกุญแจสตาร์ต ทำงานโดยการดึงพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพื่อทำให้เครื่องยนต์หมุน ส่งผลให้กระบวนการเผาไหม้เริ่มต้นขึ้น ซึ่งทั้งสองส่วนจะทำงานร่วมกันเพื่อให้รถยนต์ขับเคลื่อนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไดชาร์จเสื่อม VS ไดชาร์จเสีย
อาการไดชาร์จเสียกับไดชาร์จเสื่อมสภาพนั้นมีความแตกต่างกัน ซึ่งหากไดชาร์จเสื่อมเครื่องยนต์อาจจะดับไปในระหว่างที่คุณขับรถ ให้คุณสตาร์ตรถทิ้งไว้สักพัก แล้วลองถอดขั้วแบตเตอรี่ออกข้างหนึ่ง หากเครื่องกระตุกหรือดับ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าไดชาร์จเสื่อมสภาพแล้วนั่นเอง ส่วนไดชาร์จเสียนั้นสังเกตได้จาก เมื่อรถยนต์คุณดับ แล้วลองพ่วงแบตเตอรี่กับรถยนต์คันอื่นก็ยังสตาร์ตไม่ติดอยู่ดี เป็นอาการบ่งบอกชัดเจนว่าไดชาร์จเสีย ซึ่งอาจมาจากสายไฟหลุด ฟิวส์ขาด แปรงถ่านหมด เป็นต้น ก็ต้องเรียกรถลากหรือรถยกเพื่อนำรถยนต์ของคุณไปเข้าศูนย์บริการ
สรุป
อาการไดชาร์จเสียสังเกตได้จากเครื่องยนต์สตาร์ตติดยาก ระบบไฟในรถขัดข้อง มีกลิ่นเหม็นไหม้ มีเสียงดังหอนมาจากใต้ท้องรถ แบตเตอรี่หมดไว มีไฟโชว์แบตเตอรี่ขึ้นแจ้งเตือน หากไดชาร์จเสียกลางทาง ให้ตั้งสติแล้วปิดระบบไฟที่ไม่จำเป็นในรถให้หมด นำรถเข้าสู่ที่ปลอดภัยและค่อย ๆ ขับรถไปที่อู่หากแบตเตอรี่เหลือกระแสไฟฟ้าเพียงพอ อย่ารอให้ไดชาร์จพังก่อนแล้วค่อยเข้าศูนย์บริการ คุณควรนำรถไปเช็กอย่างต่อเนื่อง โดยที่ Autobacs มีบริการตรวจสอบรถยนต์ พร้อมช่างผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ และคอยให้บริการแบบครบวงจร มาที่นี่ ครบ-เคลียร์-จบ ทุกเรื่องรถยนต์ที่คุณรัก